ส่อง 3 หุ้นอสังหาฯ ปี 65 กำไรแกร่ง รับผลดีผ่อนเกณฑ์ LTV-ดีมานด์ต่างชาติเพิ่ม
ส่อง 3 หุ้นอสังหาฯ ปี 65 กำไรแกร่ง เก็บเกี่ยวประโยชน์จากการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV และความต้องการซื้อของต่างชาติเริ่มกลับเข้ามา หลังเปิดประเทศ 1 พ.ย.65 แนะนำ SPALI และ LH เป็นหุ้นเด่น หลังสินค้าคงคลังพร้อมโอนมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่ม จับตา SIRI ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มองบวกต่อกลุ่มที่อยู่อาศัยในปี 2565 หลังจากยอดขายของกลุ่มที่อยู่อาศัยทำจุดต่ำสุดในปี 2562-2563 โดยมีสาเหตุมาจากการเริ่มใชมาตรการ LTV (อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน) ในปี 2562 และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 เชื่อว่าการเพิ่ม LTV จะช่วยกระตุ้นยอดขายทที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะในตลาดระดับกลางและระดับกลาง-บน ที่มีราคาขายต่ำกว่า 15 ล้านบาท/ยูนิต ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
สำหรับด้านสินค้าคงคลังในปี 2565 จะเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ประกอบการระบายส้นค้าคงคลังออกมาได่ในราคาที่ดีเนื่องจากยูนิตใหม่ที่เปิดตัว และโอนภายในปี 2565 มีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการซื้อที่ฟื้นตัวขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น คาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนในทุกระดับราคา ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคและช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยเติบโต
โดยคาดยอดขายปี 2565 จะเติบโต 13-15% เมื่อเทียบจากปีก่อน แทนที่ 4% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในกรณีที่ไม่มีการผ่อนคลายเพดาน LTV ในปี 2565 การเพิ่ม LTV ทำให้คาดว่ายอดขายของกลุ่มที่อยู่อาศัยจะเติบโตราว 13-15% สู่ 1.86-1.90 แสนล้านบาท สูงที่สุดในรอบ 4 ปีโดย 70-75% จะเกิดจากโครงการแนวราบ และ 20-25% เกิดจากคอนโดเชื่อว่าถ้าไม่มีการผ่อนคลาย LTV ยอดขายของกลุ่มที่อยู่อาศัยยจะเติบโต 4% เมื่อเทียบจากปีก่อน นอกจากนี้คาดวาจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 30-35% ในปี 2565 เพื่อรองรับความต้องการซื้อที่ฟื้นตัวขึ้นและการผ่อนคลายเพดาน LTV
ขณะที่ความต้องการซื้อจากชาวต่างชาติจะกลับเข้ามาเร็วสุดในครึ่งหลังปี 2565 โดยในปี 2560-2561 ยอดขายราว 30% จากทั้งหมดได้มาจากผู้ซื้อชาวต่างชาติมากกว่า 50% เป็นชาวจีน สถานการณ์โควิด-19 และข้อจำกัดการเดินทางทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาน้อยลงตั้งแต่สิ้นปี 2562 จนถึงปัจจุบัน แม้ประเทศไทยกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย.2564 แต่เชื่อว่าความต้องการจากชาวต่างชาติยังคงอยู่ในระดับตํ่าในครึ่งแรกปี 2565 และจะเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังปี 2565 อันเป็นผลมาจากการยกเลิกข้อจำกัดกานรเดินทาง อย่างไรก็ตามคาดว่าสัดส่วนยอดขายที่ได้จากผู้ซื้อชาวต่างชาติต่อยอดขายทั้งหมดจะไม่ถึง 10% ในปี 2565
ทั้งนี้ บล.ไทยพาณิชย์ ชอบตลาดระดับกลางและระดับกลาง-บน ลูกค้าในตลาดระดับกลางและระดับกลาง-บนจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่ม LTV มากที่สุดในปี 2565 และลูกค้าในตลาดระดับกลางอาจจะมีความมั่นใจในสถานะทางการเงินของตนลดน้อยลงและเลื่อนการซื้อออกไป ดังนั้น ได้ปรับประมาณการสำหรับบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN และบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ลดลง และปรับ valuation สำหรับบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เพิ่มขึ้น เพื่อสะท้อนการได้รับประโยชน์จากการผ่อนคลายเพดาน LTV
ทั้งนี้เลือกบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI และ LH เป็นหุ้นเด่น และจับตา SIRI เมื่อพิจารณาจาก scorecard ที่จัดทำไว้สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยในปี 2565 ชอบหุ้นที่มีสินค้าคงคลังพร้อมโอนมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มและสถานะทางการเงินแข็งแรง เลือก SPALI ราคาเป้าหมาย 27 บาท/หุ้น และ LH ราคาเป้าหมาย 9.90 บาท/หุ้น เป็นหุ้นเด่น เพราะมีจุดแข็งด้านสินค้าคงคลังที่รองรับความต้องการซื้อหลังจากผ่อนคลายเพดาน LTV และแนะนําให้จับตาดู SIRI ราคาเป้าหมาย 1.17 บาท/หุ้น สำหรับการเข้าลงทนในธุรกิจใหม่ผ่านทาง XPG (SIRI ถือหุน้ 14%) ซึ่งใช้สมมติฐานว่าจะมีการขยายการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นในปี 2565