OCEAN ลุยธุรกิจ “กัญชง” ครบวงจร ตั้งเครื่องจักร 200 ลบ. จ่อหนุนปี 65 โตก้าวกระโดด
OCEAN เปิดแผนลุยธุรกิจกัญชงครบวงจร โดยสั่งซื้อเครื่องจักรรวมมูลค่ากว่า 200 ลบ. คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมรับใบอนุญาตภายในไตรมาส 3/65 หวังขึ้นแท่นคุมการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ หนุนผลงานโตเด่น
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ แตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับกัญชง โดยการลงทุนผ่านบริษัทย่อย คือ บริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด (KTDM) ซึ่งได้ผนึกกำลังร่วมกับ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ในฐานะผู้รับจ้างผลิต ซึ่งโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยา , อาหารเสริม , สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินบำรุงร่างกาย รวมทั้งกาแฟเพื่อสุขภาพ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับแผนขยายธุรกิจ บริษัทฯได้ สั่งซื้อเครื่องจักรสำหรับการผลิต โดยเน้นการจัดจำหน่าย วัตถุดิบ สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม ธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพร รวมถึงยาแผนปัจจุบัน
“ในฐานะผู้คุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ร่วมกับพันธมิตรอย่าง JP ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP และ GMP PICs สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและยา จากอย. ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร เพื่อป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีความต้องการเป็นจำนวนมาก และเป็นการการันตีได้ว่า เรามีวัตถุดิบที่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ด้วยโรงงานของ JP ที่มีคุณภาพและเครื่องจักรที่บริษัทฯ นำเข้ามายังมีจุดเด่นที่แตกต่างจากตลาดทั่วไป โดยสามารถสกัดได้ในระดับ ISOLATED CBD WATER SOLUBLE หรือสารสกัด CBD เข้มข้นแบบละลายน้ำได้ ซึ่งสามารถผสมเครื่องดื่มและอาหารได้ทันที โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องทำงานด้านวิจัยและพัฒนาเพิ่ม ต่างจากคู่แข่งในตลาดที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้” นายธีร กล่าว
โดยปัจจุบัน OCEAN มีเครื่องจักรที่มีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบ 300 กก./เดือน โดยติดตั้งแล้วที่โรงงานของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JP) ในจังหวัดลำพูน โดยเครื่องจักรดังกล่าวสามารถแยกสาร CBD ได้ 6 รูปแบบ เริ่มตั้งแต่ FULL SPECTRUM , BROAD SPECTRUM , TERPENE , WAX , CBD ISOLATE และ WATER SOLUBLE CBD ISOLATE ทั้งนี้ บริษัทได้มีการสั่งซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบถึง 30,000 กิโลกรัม (30 ตัน) ต่อเดือน คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมรับใบอนุญาตภายในไตรมาส 3 ปี 2565 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และจะส่งผลให้บริษัทฯมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากธุรกิจสกัดสารกัญชง ซึ่งเป็น New S-Curve
ด้านนายธีร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเครื่องจักรที่ติดตั้งแล้วเสร็จ จะเป็นเครื่องที่สกัดสารสกัดจากดอกกัญชงแห้ง และนำส่งให้ลูกค้าในทุกหมวดอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคและบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพร รวมถึงยาแผนปัจจุบัน เพื่อนำไปวิจัยและขออนุญาต อย.ในลำดับถัดไป นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าร่วมโครงการศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์จากกัญชา โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง
สำหรับที่ผ่านมา ทางบริษัทฯได้มีการเซ็นสัญญาร่วมวิจัยและผลิตจากลูกค้ารายใหญ่จากอุตสาหกรรมต่างๆ แล้วหลายราย และจะทยอยเซ็นสัญญาอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งออเดอร์ให้กับลูกค้าในปี 2565 และคาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจสกัดสารกัญชงในปี 2565 เป็นต้นไป
“ธุรกิจกัญชงนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ OCEAN สอดรับกับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ALPHAX) ซึ่งหมายถึง “Leader” หรือผู้นำในทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจกัญชง-กัญชา ที่จะเข้ามาเสริมทัพ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามแผนงานที่วางไว้” นายธีร กล่าว