สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 พ.ย. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 พ.ย. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันว่า สหรัฐไม่มีแผนล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,135.94 จุด เพิ่มขึ้น 236.60 จุด หรือ +0.68%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,655.27 จุด เพิ่มขึ้น 60.65 จุด หรือ +1.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,782.83 จุด เพิ่มขึ้น 291.18 จุด หรือ +1.88%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ (29 พ.ย.) โดยฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนรอดูว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแผนคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ หรือไม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.24 จุด เพิ่มขึ้น 3.19 จุด หรือ +0.69%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,776.25 จุด เพิ่มขึ้น 36.52 จุด หรือ +0.54%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,280.86 จุด เพิ่มขึ้น 23.82 จุด หรือ +0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,109.95 จุด เพิ่มขึ้น 65.92 จุด หรือ +0.94%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (29 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้น หลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์เกี่ยวกับโอไมครอนซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,109.95 จุด เพิ่มขึ้น 65.92 จุด หรือ +0.94%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส และรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 69.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 73.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,785.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 28.3 เซนต์ หรือ 1.22% ปิดที่ 22.852 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 1.07% ปิดที่ 964.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,789.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเริ่มลดน้อยลง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.30% แตะที่ 96.3315 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.71 เยน จากระดับ 113.13 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9245 ฟรังก์ จากระดับ 0.9217 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2769 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2783 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1274 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1313 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3293 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3335 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7129 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7118 ดอลลาร์สหรัฐ