TIDLOR-BEC-TIPH เข้าดัชนี MSCI จับตากองทุน PASSIVE FUND ไล่เก็บ
จับตา! กองทุน PASSIVE FUND ซื้อ 3 หุ้นน้องใหม่เข้าคำนวณ MSCI Small Cap นำโดย TIDLOR-BEC-TIPH ส่วน TKN โดนขายหลังหลุดดัชนีรอบนี้ โบรกฯ มอง MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทยเป็นจิตวิทยาเชิงลบเล็กน้อย
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า MSCI Rebalance ที่มีผลวันนี้ 30 พฤศจิกายน โดยให้จับตาหุ้นเข้าใหม่ 3 หุ้น ที่กองทุน PASSIVE FUND จะเข้าซื้อหลังจากได้เข้าคำนวณ MSCI Small Cap วันนี้ ได้แก่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR, บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC, บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา ส่วนหุ้นถูกคัดออก ได้แก่ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ก็คาดว่าจะมีผลให้มีแรงขายออกมา
สำหรับตลาดหุ้นไทยพบว่ายังขาดแรงรับจากผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่า MSCI จะลดน้ำหนักหุ้นไทยลงจาก 0.02% สู่ 1.64% คิดเป็นแรงขายของกองทุน PASSIVE FUND ประมาณ 73 ล้านเหรียญฯ แต่ก็ถือเป็นจิตวิทยาเชิงลบเล็กน้อยเท่านั้น
“วันนี้ MSCI จะปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย ซึ่งตรงกับช่วงพักฐานของตลาดหุ้นไทยพอดี ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบมากนัก แต่แนวโน้มยังมองว่ายังเป็นช่วงพักฐานอยู่” นายกรภัทร กล่าว
โดยกองทุน PASSIVE FUND จะขายลดน้ำหนักใน 10 หุ้นไทย หุ้นละ 6.4 ล้านเหรียญฯ ถึง 2 ล้านเหรียญฯ ณ ราคาปิดวันนี้ ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส หรือ ASPS กล่าวว่า ผลกระทบจาก MSCI ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยวันนี้คงมีไม่มากนัก เนื่องจากภาพใหญ่ของตลาดฯ ได้รับผลกระทบจากความกังวลไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ไประดับหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ให้แนวรับ 1,570-1,590 จุด จะสามารถรองรับได้จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าก่อนหน้านี้ในการระบาดของโควิดในระลอก 2-3 ดัชนีสามารถเด้งกลับขึ้นมาได้ ณ บริเวณแนวรับดังกล่าว เนื่องจากผลตอบแทนของตลาดยังดีพอที่จะดึงดูดเม็ดเงินกลับเข้ามา