MCOT ลุยขับเคลื่อนธุรกิจสู่ “หุ้นยั่งยืน” ปี 68 ตามแนวทาง ESG
MCOT ปักหมุดรุกขยายธุรกิจเดิม-ใหม่ สู่หุ้นยั่งยืนปี 68 ตามแนวทาง ESG โดยมีการปรับผังรายการใหม่ที่จะเริ่มในเดือนม.ค.65 ทั้งนี้ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่าน TV Home Shopping โดยมีสินค้าหลัก คือ สินค้ากลุ่มสุขภาพความงาม และเครื่องใช้ในบ้าน ซึ่งในอนาคตอาจจะเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า
รศ.เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT กล่าวว่า ผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของ อสมท ที่มีทิศทางที่ดีขึ้นและทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในปี 2565 MCOT ประกาศวิสัยทัศน์ “The Year of Trusted News & Smart Entertainment” ตอกย้ำความเป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง รวดเร็ว และตรวจสอบได้ โดย MCOT จะขยับไปสู่ Communication Solution Provider ผ่าน Content / Product & Service ที่มี Solution พร้อมตอบโจทย์ให้คำปรึกษากับลูกค้า โดยผนึกความร่วมมือกับ Strategic Partner เพื่อเติบโตไปด้วยกัน
โดยมีกลยุทธ์สำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจใหม่ในอนาคต คือ Reinforce- Refresh – Refine Reinforce เสริมจากสิ่งเดิมที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ด้วย Strategic Partner ยกระดับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมสร้างเป้าหมายไปด้วยกัน เสริม Content ที่ Wise & Clean มุ่งนำเสนอเนื้อหาที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับสังคม ถูกต้องตรวจสอบได้ Refresh มุ่งสู่ The Trusted Platform และ Smart Entertainment และ Refine ต่อยอด Assets เดิมเพื่อสร้างรายได้ มีเป้าหมายก้าวเข้าไปสู่ “หุ้นยั่งยืน” ภายในปี 2568 ที่มีกำไรต่อเนื่อง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักสากล (ESG) ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) ด้านสังคม (Social) และ หลักธรรมาภิบาล (Governance) เพื่อสร้างโอกาสให้บริษัทเป็นที่สนใจจากผู้ลงทุนที่มีแนวคิดด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน”
สำหรับผังรายการใหม่ของช่อง 9 MCOT HD ที่จะเริ่มในเดือนมกราคม 2565 ยังคงตอกย้ำความเป็น Trusted Content สร้างความนิยมด้วยการพัฒนารายการข่าว, รายการบันเทิง และ Refreshing Brand ส่งรายการใหม่ลงเต็มผังในช่วง Prime – Time เพิ่มความนิยม และหวังให้ Content สามารถกลับมาอยู่ในใจผู้ชม ผู้ฟัง อีกครั้ง จัดเต็มรายการข่าว 80 ชั่วโมง/สัปดาห์ เน้น Inform และ Verify นำสาระที่มีประโยชน์อ้างอิงและเชื่อถือได้มานำเสนอ เสริมความสนุกด้วย Smart Entertainment ที่ได้ทั้งความบันเทิงและสาระความรู้ไปพร้อม ๆ กัน กับ Content ชั้นนำจากพันธมิตรบันเทิงระดับแถวหน้าของประเทศ อาทิ We TV, MONO ฯลฯ สำหรับรายการใหม่ช่วง Prime – Time ได้แก่ รายการเปิดอกเคลียร์, รายการชูวิทย์สะกิดติ่ง ที่ได้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ในบุคลิกใหม่ที่ไม่เคยปรากฎที่ไหนมาก่อน รายการข่าวหุ้น ฯลฯ
ทั้งนี้ เป้าหมายในระยะยาวของ MCOT คือ การต่อยอด Content ที่มีอยู่ไปในช่องทาง Online และ Platform OTT จะเห็นได้ว่าตลาด OTT มีความคึกคักอย่างมาก เพราะผู้ผลิตContent รวมถึงสถานีโทรทัศน์หลายรายปรับกลยุทธ์มาให้ความสำคัญกับ Platform OTT มากยิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในสถานการณ์ทีวีดิจิตอลอยู่ในช่วงขาลงจากพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 กระตุ้นให้ผู้ชมปรับตัวมาติดตาม Content บน Platform Online มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลาด Platform OTT ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท ในระยะเวลาที่ผ่านมาทาง MCOT ส่งซีรีส์วาย Boy Love ซึ่งมีแนวโน้มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากผ่าน OTT ทั้งในประเทศ อาทิ AISPLAY, WE TV ฯลฯ และต่างประเทศ อาทิ GagaOOLala , U-Next รวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ Content ในตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มเดินหน้าขยายกลุ่มตลาดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อนำไปออกอากาศผ่านเครือข่าย Free TV และ Platform OTT ปัจจุบันเริ่มมีรายได้จากการขยาย Content ไปใน Platform ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้ในระยะยาวให้องค์กร
ทางด้านรศ.เกษมศานต์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับธุรกิจวิทยุนั้น ทาง MCOT เตรียมความพร้อมในการร่วมประมูลคลื่นวิทยุ ตามที่สำนักงาน กสทช.ประกาศว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ในระหว่างนี้มุ่งสร้าง Community ผู้ฟังผ่าน New Platform Online : The Trusted มุ่งเน้น Content ที่ชัดเจน ตรงประเด็น มีสาระขยายรูปแบบการให้บริการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังการประมูลคลื่นวิทยุ ซึ่งคาดว่า ในปีหน้ารายได้จากธุรกิจวิทยุจะมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 ทำให้เริ่มมีการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมจาก On ground ไปสู่ Online ทำให้สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบใหม่ๆได้หลากหลายและควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี
ทั้งนี้ ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล นั้น ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ให้ทดลองส่งสัญญาณออกอากาศฯ ภายใต้ชื่อ “ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7” โดยออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของ อสมท แบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) จะเริ่มสะท้อนรายได้เข้ามาในไตรมาส 3/64
โดยปัจจุบัน MCOT มีผู้ใช้บริการโครงข่ายฯ จำนวน 4 ช่องรายการ ซึ่งเป็นช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดสูง (High Definition) 2 ช่องรายการ ได้แก่ ไทยรัฐทีวี ช่องหมายเลข 32 และ MCOT HD ช่องหมายเลข 30 และ ช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) 2 ช่องรายการ คือ สถานีโทรทัศน์รัฐสภา ช่องหมายเลข 10 และ ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7 มั่นใจว่าด้วยศักยภาพความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรของ อสมท จะพร้อมสนับสนุนการออกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจนี้ ถือเป็นอีกธุรกิจสำคัญที่เป็นแหล่งรายได้ให้กับ อสมท เนื่องจากเป็นรายได้ที่ไม่ได้ แปรผันไปตามการบริโภคของประเทศเหมือนธุรกิจสื่อโทรทัศน์ และวิทยุ
อีกทั้ง MCOT เร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ (New Business Model) ลงสนามในธุรกิจ TV Home Shopping ในชื่อ Shop Mania ด้วยการใช้ช่อง 9 MCOT HD เป็นช่องทางหลักในการจำหน่ายสินค้า เพราะเป็น Real – Time Platform ที่ โดยมีสินค้าหลัก คือ สินค้ากลุ่มสุขภาพ ความงาม และเครื่องใช้ในบ้าน ในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า
รวมไปถึงการเตรียมผลิตสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามภายใต้ Brand ของตัวเอง เพื่อออกจำหน่ายทาง Shop Mania และขยายช่องทางโปรโมตด้วยการผสานทุก Platform ของ MCOT เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนสร้างสรรค์ Content การนำเสนอขายสินค้าให้น่าสนใจยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว
ส่วนการต่อยอด Assets เช่น ทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) ที่มีทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านรัชดา – พระราม 9 , หนองแขม, บางไผ่ และในภูมิภาค จะดำเนินการด้วยความรอบคอบภายใต้กฎหมาย ข้อบังคับต่างๆ และคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับเป็นสำคัญ คาดว่าในไตรมาส 2 ปี 2565 จะเริ่มเห็นความชัดเจนของการพัฒนาที่ดินย่านรัชดา – พระราม 9 รวมถึงธุรกิจองค์ความรู้เพื่อสังคมที่สามารถต่อยอดจาก MCOT ACADEMY และชัวร์ก่อนแชร์ ฯลฯ โดยคาดหวังว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจใหม่
โดยรศ.เกษมศานต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมา MCOT ได้ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างทัดเทียม ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจใหม่ และเพิ่มความสามารถด้านการสร้างผลกำไรเพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อน MCOT ให้เติบโตและก้าวสู่หุ้นยั่งยืน ภายในปี 2568