SET เปิดเช้าพุ่ง 10 จุด รับแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคป หลังนลท.คลายกังวล “โอมิครอน”
SET เปิดเช้าพุ่ง 10 จุด รับแรงซื้อหุ้นแบงก์-เปิดเมือง-พลังงาน หลังนลท.คลายกังวลเชื้อโควิดโอมิครอน และเล็งแรงซื้อต่างชาติเข้าหลังเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10:07 น. อยู่ที่ 1,619.57 จุด เพิ่มขึ้น 10.29 จุด หรือ 0.64% สูงสุดที่ 1,620.49 จุด ต่ำสุดที่ 1,616.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.19 พันล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปที่ปรับตัวขึ้นได้ดี จากคลายกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนหลังสหรัฐฯว่าไม่รุนแรง แม้จะมีการแพร่ระบาดสูง
นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากคลายกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้มองเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนี้ไม่น่าจะกระทบความต้องการใช้น้ำมัน ส่วนบ้านเราจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ลดลง ทำให้มองว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นได้ โดยคาดว่าหุ้นในกลุ่มเปิดเมืองน่าจะขึ้นนำตลาดฯ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มโรงแรม, ท่องเที่ยว เป็นต้น และกลุ่มพลังงานก็น่าจะกลับมาด้วย อีกทั้งเงินบาทขณะนี้ได้แข็งค่าขึ้นทำให้น่าจะได้เห็นแรงซื้อของนักลงทุนเข้ามาบ้าง
ทั้งนี้พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,624 จุด
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (8 ธ.ค.2564) ว่า แนวโน้มตลาดคาด SET Index มีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,620-1,625 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกจากความกังวลโอมิครอนที่ลดลงเนื่องจากตลาดมองว่าความรุนแรงต่ำ ขณะที่เม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่องรวมถึงน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งทะลุ 70 เหรียญต่อบาร์เรล อีกครั้งหนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดให้นำตลาดอีกในวันนี้
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (8 ธ.ค.2564) ว่า คาด SET ปรับตัวขึ้น 1,615-1,620 จุด ตามรายงานเชื้อ Omicron แม้จะติดง่ายแต่อาการไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์อื่น นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเหนือ 71 เหรียญ/บาร์เรล เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามความผันผวนของ Fundflow ก่อนการประชุม FED ในสัปดาห์หน้าที่อาจลด QE ลงอีกจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง