TWPC แย้มผลงานไตรมาส 4 สดใสรับไฮซีซั่น ราคา “แป้งมันสำปะหลัง” พุ่ง – ดีมานด์จีนล้น
TWPC ส่งซิกผลงานไตรมาส 4 โตเด่นรับไฮซีซั่น ดีมานด์แป้งมันสำปะหลังล้นทะลัก หนุนราคาขายพุ่งกระฉูด มองปี 65 ดีมานด์เพิ่มต่อเนื่องหนุนผลงานทำสถิติใหม่
นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 ของกลุ่มบริษัทฯ มั่นใจว่าอัตราการเติบโตของรายได้จะออกมาอยู่ในทิศทางที่ดีเมื่อเทียบกับทุกไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์เข้ามาค่อนข้างสูงโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่การส่งออกและปริมาณการขายไปประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของสินค้าแป้งมันสำปะหลังก็เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ส่วนยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในทุกช่องทาง โดยเฉพาะการส่งออก หน่วยรถเงินสด และร้านค้าขายปลีกสมัยใหม่ (Modern trade) เนื่องจากได้รับอานิสงส์มาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการเติบโตของปริมาณการขายในประเทศเวียดนามที่เติบโตถึง 67% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า จึงทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2564 ได้ต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้ 7,182 ล้านบาท
“ผลประกอบการไตรมาส 4 ส่งสัญญาณเชิงบวก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการส่งออกแป้งมันสำปะหลังที่ยังมีความต้องการสูง ส่งผลให้ราคาขายเพิ่มตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารเพิ่มขึ้นในทุกช่องทาง จึงช่วยหนุนผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เติบโตได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นาย โฮ เรน ฮวา กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWPC กล่าวอีกว่า คาดว่าในปี 2565 ความต้องการผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีนี้ รวมถึงความต้องการในผลิตภัณฑ์อาหาร ขณะที่ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในทิศทางบวกตามความต้องการใช้แป้งมันสำปะหลังของตลาดชั้นนำอย่างจีน และราคาต้นทุนหัวมันสำปะหลังที่ราคาขายเฉลี่ยยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงอันเนื่องมาจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ส่งผลให้ปริมาณหัวมันออกสู่ตลาดไม่มากเท่ากับที่คาดไว้ ซึ่งน่าจะผลักดันให้แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีนี้ และสามารถเติบโตเป็นเลขสองหลักต่อเนื่องได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า