“โบรกฯ” ชี้ TWPC ผลงานปี 65 โตเด่น รับไฮซีซั่น-ยอดส่งออกสูง เคาะเป้า 6.20 บ.

“ฟินันเซียฯ” มอง TWPC ผลงานปี 65 โตเด่น ชี้กำไรปกติแตะ 384 ลบ. รับไฮซีซั่น-ปริมาณขายและราคาขายส่งออกยังสูง รวมทั้งเริ่มรับรู้รายได้เม็ดไบโอพลาสติกตั้งแต่ Q1/65 เป็นต้นไป แนะนำ “ซื้อ” เป้า 6.20 บ.


บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ธ.ค. 2564) โดยประเมิน บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ว่า บริษัทฯ ได้รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 39 ล้านบาท ลดลง 48.50% จากไตรมาสก่อน พลิกจากขาดทุน 41 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2563 แม้จะดีกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยเคยคาดไว้ 31 ล้านบาท แต่เป็นกำไรที่อ่อนลงจากไตรมาสก่อน เพราะเป็น Low Season ของผลผลิตมันสำปะหลัง ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

ขณะที่ราคาขายปรับขึ้นน้อยกว่าส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนลงเป็น 18.20% จาก 20% ในไตรมาส 2/2564 นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายป้องกันโควิด เช่น การทำ Bubble and Seal รวมถึงค่าวัคซีนให้กับพนักงาน รวมงวดเดือน 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 242 ล้านบาท เติบโตจาก 29 ล้านบาทในปีก่อน หากไม่รวมขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมตราสารอนุพันธ์ จะมีกำไรปกติที่ 248 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 25 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนปี 2563

อย่างไรก็ดีคาดกำไรปกติไตรมาส 4/2564 จะกลับมาฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน และโตสูงจากฐานต่ำในไตรมาส 4/2563 เบื้องต้นคาดไว้ 65 ล้านบาท ต่ำกว่าเดิมที่เคยประเมินไว้ 103 ล้านบาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบหัวมันยังปรับขึ้น เฉลี่ยจากไตรมาส 4 จนถึงปัจจุบัน เท่ากับ 2.63 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 2.30% จากไตรมาสก่อน ผิดไปจากที่เคยคาดว่าจะอ่อนตัวลง ถือว่าสวนทางฤดูกาลที่ปกติ

ส่วนไตรมาส 4 ผลผลิตหัวมันจะออกสู่ตลาดค่อนข้างมาก แต่ในปีนี้ผิดปกติเพราะประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมในภาคอีสานและภาคกลาง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลัง ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดช้ากว่าปกติ แต่สิ่งที่ยังดีต่อเนื่องคือ ปริมาณการส่งออกแป้งมันยังเร่งตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการของจีนที่ยังอยู่ในระดับสูง เห็นได้จากภาวะราคาแป้งข้าวโพดในจีนที่ยังทรงตัวสูง ทำให้ราคาขายส่งออกแป้งมันยังทรงตัวสูง 484 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 0.60% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 4.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งล่าสุดราคาแตะระดับ 490 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สูงสุดในรอบ 3 ปี

ทั้งนี้จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2564 ที่อาจต่ำกว่าที่เคยคาด ทางฝ่ายวิจัยจึงปรับลดกำไรปกติปี 2564 ลง 6.70% เป็น 321 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 8 ล้านบาทในปี 2563 แต่ปรับเพิ่มกำไรปกติปี 2565 ขึ้น 6.10% เป็น 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จาก (1) ปริมาณส่งออกยังสดใสตามความต้องการของจีนและไทยหลังฟื้นจากโควิด (2) ราคาขายส่งออกน่าจะทรงถึงปรับขึ้นราว 1% – 3% เป็น 490 – 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากราคาเฉลี่ยปี 2564 ที่ 482 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 8.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นจากสมมติฐานเดิมที่เคยคาดไว้ 450 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และ (3) ทางฝ่ายวิจัยรวมรายได้เม็ดไบโอพลาสติกที่ทำจากแป้งมันราว 80 ล้านบาท คิดเป็น 1% ของรายได้รวม ซึ่งบริษัทฯ จะเริ่ม Commercial Run สำหรับเฟสแรก 3,000 ตันต่อปี ในเดือน ก.พ. 2565 โดยมีลูกค้ารองรับทั้งหมดแล้ว

สำหรับแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2565 จะโตเด่นเพราะเป็น High Season จากผลผลิตมันที่ออกสู่ตลาดเต็มที่ในเดือน ธ.ค.2564 เป็นต้นมา พร้อมคาดราคาหัวมันจะอ่อนลงในไตรมาส 1/2565 ขณะที่ราคาขายยังอยู่ในระดับสูง และค่าเงินบาทยังอยู่ในโซนอ่อนค่า เป็นบวกต่อบริษัทฯ ที่เป็นผู้ส่งออกสุทธิ ทางฝ่ายวิจัยปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 6.20 บาท จากปี 2564 ที่ 5.6 บาท (อิงค่า PE เดิม 14 เท่า)

ขณะเดียวกันล่าสุด 19 พ.ย. 2564 บริษัทฯ ได้รับรางวัล The Green Initiative Award Category ในงาน Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards 2021 ซึ่งเป็นรางวัลสาหรับผู้ที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้พลังงาน เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ประกาศเจตนารมย์ร่วมกับ UN Global Compact และ Thailand Carbon Neutral Network ในการตั้งเป้าหมายที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 หรืออย่างช้าไม่เกินปี 2613

Back to top button