ชัดแล้ว! “รฟท.” เคาะเซ็นสัญญารถไฟฟ้าคู่สาย “เหนือ-อีสาน” ม.ค.65 บิ๊กรับเหมาจ่อชิมเค้ก

บอร์ด “รฟท”. เคาะเซ็นสัญญารถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 72,920 ลบ. จำนวน 3 สัญญา ITD-NWR-CK-STEC เสนอราคาต่ำสุด ส่วนโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม  วงเงินรวม 55,458 ลบ. จำนวน 2 สัญญา บริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด และ UNIQ เสนอราคาต่ำสุด ผู้ชนะคาดว่าจะเซ็นสัญญาภายในเดือนม.ค.65 


นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.64 มีมติอนุมัติสั่งจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงิน 72,920 ล้านบาท จำนวน 3 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599.16 ล้านบาท กลุ่ม บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ร่วมกับกับ บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 26,568 ล้านบาท

สัญญาที่ 2 งาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913.78 ล้านบาท  ผลเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 26,900 ล้านบาท

สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. ราคากลาง 19,406.31 ล้านบาทมี เสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 19,390 ล้านบาท  ซึ่งสัญญา 2 และ 3 มีกลุ่มกิจการร่วมค้า CKST ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ซึ่งเสนอราคาต่ำสุด โดยแผนก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2570

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม  ระยะทาง 355 กม. วงเงินรวม 55,458 ล้านบาท จำนวน 2 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กม. ราคากลาง 27,123.62 ล้านบาท โดยบริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด จอยต์เวนเจอร์กับบริษัทรับเหมาท้องถิ่นเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 27,100 ล้านบาท

สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 175 กม. ราคากลาง 28,333.93 ล้านบาท บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ จอยเวนต์เจอร์กับบริษัทรับเหมาท้องถิ่นเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด อยู่ที่ 28,310 ล้านบาท โดยแผน ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2568

โดยหลังจากนี้เป็นขั้นตอนการประกาศผลผู้ชนะ ตามขั้นตอนการประกวดราคาด้วยระบบจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ซึ่งหากไม่มีการอุทรธณ์ภายใน 7 วันทำการ จะดำเนินการลงนามในสัญญา คาดว่าจะภายในเดือนม.ค. 2565 โดยในส่วนของร่างสัญญานั้น ขณะนี้อัยการสูงสุดได้ตรวจเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้จากที่มีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบผลการประมูลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประกวดราคาก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ (สายเหนือ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายอีสาน สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม) ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยมีนายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ ซึ่งได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุว่า การดำเนินการประมูลเป็นไปตามระเบียบถูกต้องตามกฎหมายครบถ้วน ไม่ปรากฏพฤติกรรมว่ามีการสมยอมราคา ซึ่งนายกฯ ได้ลงนามรับทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 และส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคม เพื่อดำเนินการต่อ

ขณะที่กรณีที่จะให้เปิดประมูลใหม่นั้น พบว่า จะต้องมีการปรับราคากลางเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งพบว่า เส้นทางสายเหนือ (สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ) ราคากลางจะเพิ่มขึ้นอีก 4,600 ล้านบาทสายอีสาน (สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม) ราคากลางจะเพิ่มขึ้นอีก 2,900 ล้านบาท ซึ่งบอร์ดรฟท.พิจารณาทั้งผลการประมูลและกรณีราคากลางดังกล่าว จึงเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องประมูลใหม่ ขณะที่ผู้รับหมาที่เสนอราคาต่ำสุดทั้ง 5 สัญญา ได้แจ้งยืนยันราคาไว้ จึงไม่กระทบต่อการดำเนินโครงการต่อ

Back to top button