JTS กางแผนปี 65 ขยายฐานขุด “บิทคอยน์” ทุ่มเงิน 3.3 พันลบ.เพิ่มอีก 6.3 พันเครื่อง
บอร์ด JTS อนุมติแผนลงทุนในปี 2565 เพิ่มเครื่องขุดบิดคอยน์ 6,300 เครื่อง มูลค่า 3.3 พันลบ. หวังต่อยอดธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์
บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทและ/หรือบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (JasTel) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่กลุ่มบริษัทอยู่ในช่วงเริ่มลงทุนโดยก่อนหน้านี้ได้จัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์และเริ่มดำเนินการไปแล้วกว่า 300 เครื่อง โดยบริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มเติมสำหรับปี 65 ในการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์อีกไม่เกิน 6,300 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบที่เกี่ยวข้องอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 3,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าว เบื้องต้นจะมีการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จำนวน 1,800 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 741.60 ล้านบาท จากบริษัท พรีเมียม แอสเซท จำกัด (Premium Asset) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จึงเข้าข่ายเป็นการทำรายการเกี่ยวโยง
โดยหลังจากนั้นบริษัทจะลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตตามแผนธุรกิจสำหรับปี 65 โดยการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จำนวนไม่เกิน 4,500 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบที่เกี่ยวข้องอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 2,558.40 ล้านบาท โดยจะจัดซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ไม่เข้าข่ายเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยง
ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริษัทยังเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินรวมทั้งสิ้นไม่เกิน4,000 ล้านบาท รวมถึงการจัดหาหลักประกันสำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) เพิ่มเติม และจ่ายชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินการจัดหาหลักประกันสำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้
โดยบริษัทจะเข้าทำสัญญาเพื่อขอรับการสนับสนุนจาก JAS และ/หรือ บริษัทในกลุ่ม JAS ในการนำหุ้นสามัญในบริษัทที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ JAS และ/หรือ บริษัทในกลุ่ม JAS และ/หรือที่ดิน และ/หรืออาคารซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Premium Asset มาจำนำและ/หรือจำนองเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1.25 เท่าของวงเงินรวมในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท (คิดเป็นมูลค่าหลักประกันรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 ล้านบาท)
ทั้งนี้บริษัทจะชำระค่าธรรมเนียมหลักประกันให้แก่ JAS และ/หรือ Premium Asset และ/หรือบริษัทในกลุ่ม JAS ในอัตราร้อยละ 1 ของมูลค่าหลักประกันตลอดอายุของหุ้นกู้ ทั้งนี้ในกรณีที่บริษัทสามารถออกและเสนอขายหุ้นกู้ได้เต็มวงเงิน 4,000 ล้านบาท โดยมีอายุหุ้นกู้ 3 ปี และได้รับการสนับสนุนหลักประกันเต็มมูลค่า กรณีนี้ ค่าธรรมเนียมหลักประกันสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาทตลอดอายุหุ้นกู้ 3 ปี