SNNP เปิดตัว “ขนมขบเคี้ยวผสมใบกัญชา” รายแรกของไทย มั่นใจดันผลงาน Q4 ออลไทม์ไฮ!

SNNP เปิดตัว “ขนมขบเคี้ยวผสมใบกัญชา” รายแรกของไทย วางขายโมเดิร์นเทรด-ร้านสะดวกซื้อปลายธ.ค.นี้ มั่นใจกระแสตอบรับคึกคัก ดันผลงาน Q4 ออลไทม์ไฮ!


นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้นำทางการตลาดประเภทขนมขบเคี้ยว ได้พัฒนาสูตรขนมขบเคี้ยวที่นำกัญชามาเป็นส่วนผสม จึงออกมาเป็น ขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมใบกัญชา รสบาร์บีคิว ซึ่งจะสร้างสีสันให้ตลาดขนมขบเคี้ยว เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ต้องการลิ้มรส และได้รับสรรพคุณของกัญชาที่ช่วยเพิ่มความอร่อยกลมกล่อม ซึ่ง SNNP นับเป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวรายแรกในประเทศไทย ที่ได้นำใบกัญชามาเป็นส่วนผสม โดยได้รับอนุมัติอย่างถูกต้องจากคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)เรียบร้อยแล้ว

สำหรับขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมใบกัญชา รสบาร์บีคิว จะเริ่มวางจำหน่ายที่ห้างโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป โดยจำหน่ายในราคาซองละ 30 บาท

“จากการปลดล็อคพืชเศรษฐกิจประเภทกัญชาทาง SNNP ได้นำมาต่อยอดโดยใช้ใบกัญชามาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งจากการสำรวจความต้องการของผู้บริโภค และการสำรวจตลาดพบว่าผู้บริโภคเปิดใจรับขนมผสมกัญชามากกว่าที่คิด จึงมั่นใจว่าเมื่อขนมโลตัสที่ผสมใบกัญชาวางขายในตลาดแล้ว จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี และช่วยกระตุ้นยอดขาย สร้างรายได้เพิ่ม ขณะที่ขนมน่องไก่โลตัส ผสมใบกัญชาเป็นสินค้าที่มีความสามารถทำกำไรระดับสูง ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลงานไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เติบโตทุบสถิติและเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า” นายวิโรจน์ กล่าว

ขณะที่ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการนำสินค้าใหม่วางจำหน่าย อาทิ เบนโตะ รสซอสพริกคั่วหมึกย่าง ที่โดนใจในกลุ่มวัยรุ่น, เจเล่ ชิววี่ เยลลี่เคี้ยวหนึบ เทรนด์ใหม่ผสมวิตามินซีสูง และ 0% แคลอรี , Jele x NESTEA” เยลลี่พร้อมดื่มสไตล์ใหม่ 2 รสชาติ ชามะนาว และทับทิม, ขณะที่ปี 2565 บริษัทฯจะเริ่มวางจำหน่ายขนมและเครื่องดื่มที่ใช้สารสกัดจากกัญชากัญชงเพิ่มเติม ซึ่งมีรูปแบบพัฒนาเรียบร้อย จ่อคิวได้รับอนุมัติจากทางองค์การอาหารและยา (อย.) ภายในช่วงต้นปีหน้าแน่นอน

นอกจากนี้ บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์ในการโปรโมทสินค้าเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายมากขึ้น โดยการใช้อินฟลูเอนเซอร์โปรโมทสินค้าของบริษัทฯ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย รวมทั้งยังใช้ทุ่มงบการตลาดทำโฆษณาออนไลน์ เพื่อกระจายการรับรู้ไปถึงผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้น

Back to top button