YGG มั่นใจรายได้ปี 65 โต 20% ลุย “งานภาพยนตร์-เกม” เต็มสูบ

YGG มั่นใจรายได้ปี 65 โต 15-20% รับปัจจัยบวกงานภาพยนตร์ เดินหน้าธุรกิจเกมเต็มสูบ จ่อเปิด Home Sweet Home Survive เตรียมเปิดตัว Beta 2 ในช่วงปลายไตรมาส 1/65 ซึ่งจะหนนุรายได้เกมส์มากขึ้น


นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่ารายได้จะเติบโต 15-20% โดยทุกธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มธุรกิจเกมและอินโนเวชั่น งานโฆษณาและภาพยนตร์(VFX) รวมทั้งด้านภาพยนตร์แอนิเมชั่น โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รุกไปสู่ต้นน้ำในทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเป็นการเติบโตตามเทรนด์ของโลก

ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจเกมและอินโนเวชั่น จะมีการเติบโตที่โดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่บริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรอย่างเช่น Zookeeper ผู้เป็นแพลตฟอร์ม decentralized บนบล็อกเชน ซึ่ง YGG จะเข้าไปสร้างและร่วมพัฒนาเกมให้กับ Zookeeper ซึ่งโมเดลธุรกิจของ ZooKeeper จะวางอยู่บนพื้นฐานของตัวโทเคนสกุล ZOO นอกจากนี้ยังจับมือกับ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint venture) เพื่อดำเนินธุรกิจ Game Publishing ซึ่งมีเป้าหมายการเป็นผู้พัฒนาเกม และนำเข้าเกมจากต่างประเทศ จนถึงการให้บริการลูกค้าภายในประเทศ รวมทั้งยังให้บริการด้านการตลาดสำหรับนักพัฒนาเกมด้วย ซึ่งความร่วมมือนี้จะเกิดขึ้นบนอีโคซิสเต็มของเกมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกมไทยให้เติบโตไปสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ในปีหน้า YGG เตรียมที่จะเปิดพัฒนาเกม Home Sweet Home Survive สู่ Beta 2 เพื่อที่จะอัพเดทเนื้อหาใหม่ๆ เข้ามาเพื่อเพิ่มความหลากหลายของเกม ซึ่งที่ผ่านมา เกม Home Sweet Home ทั้งภาคแรกและ Survive ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  สร้างรายได้รวมทั้ง 2 ภาคมากกว่า 100 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน YGG เตรียมที่จะพัฒนาเกมใหม่ออกสู่ตลาดในปี 2565 ซึ่งคาดว่าจะได้รับสนใจอย่างล้นหลาม เพราะนอกจากบริษัทจะมีจุดแข็งด้านการพัฒนาเกมแล้ว ยังมีพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่สนับสนุน

“ธุรกิจเกมในปีหน้าจะโดดเด่นมาก เพราะเป็นเทรนด์ของตลาดโลก แถมเรามีพันธมิตรทั้ง ZooKeeper และ MACO เข้ามาช่วยซัพพอร์ต  แถมตัวเราเองก็มีจุดแข็งด้านเกมอยู่แล้ว  ยิ่งถ้าเกมที่เราพัฒนาขึ้นมาเอง ได้รับความสนใจก็จะถือว่าเป็นโบนัสให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น” นายธนัช กล่าว

ส่วนธุรกิจโฆษณาและภาพยนตร์ (VFX) และด้านภาพยนตร์แอนิเมชั่น YGG ก็ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ยังถือเป็นเป้าหมายหลักของบริษัท ซึ่งในปีหน้าจะเห็นการรุกธุรกิจไปในต่างประเทศมากขึ้น

อย่างไรก็ตามการที่ YGG จะขับเคลื่อนองค์กรให้มีการเติบโตและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ การยกระดับหุ้นของบริษัทฯ จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ประกาศแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 256 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 90 ล้านบาท เป็นทุนจดทำเบียน 346 ล้านบาท โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 512 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับโอกาสในการลงทุนของบริษัท

สำหรับรายละเอียดการเพิ่มทุน บริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)ในอัตราจัดสรร 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.50 บาท รวมมูลค่า 180 ล้านบาท และแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W1 โดยไม่คิดมูลค่า

โดยจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 4 ก.พ. 2565 เวลา 13.00 น. ณ โรงแรมทาวน์อินทาวน์ เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 256 ล้านบาท และการจัดสรรผู้ถือหุ้นเดิม รองรับการออกวอร์แรนท์

Back to top button