สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ธ.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ธ.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลการวิจัยครั้งล่าสุดที่ระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,753.89 จุด เพิ่มขึ้น 261.19 จุด หรือ + 0.74%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,696.56 จุด เพิ่มขึ้น 47.33 จุด หรือ +1.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,521.89 จุด เพิ่มขึ้น 180.81 จุด หรือ +1.18%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (22 ธ.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งปรับตัวขึ้น แม้นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 478.36 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด หรือ +0.92%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,051.67 จุด เพิ่มขึ้น 86.68 จุด หรือ +1.24%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,593.47 จุด เพิ่มขึ้น 146.03 จุด หรือ +0.95% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,341.66 จุด เพิ่มขึ้น 44.25 จุด หรือ +0.61%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (22 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและการเงินที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และการเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าคาด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,341.66 จุด เพิ่มขึ้น 44.25 จุด หรือ +0.61%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 72 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 72.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 75.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) โดยสัญญาทองคำกลับมายืนที่เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่  1,802.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 1.29% ปิดที่ 22.819 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 40.6 ดอลลาร์ หรือ 4.38% ปิดที่ 968.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 96.20 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 1,889.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งรวมถึงยูโรและเงินปอนด์ หลังคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% แตะที่ 96.0888 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9196 ฟรังก์ จากระดับ 0.9238 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2843 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2925 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.17 เยน จากระดับ 114.10 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1331 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1281 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3359 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3264 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7214 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7154 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button