“ดาวโจนส์” ปิดลบ 59.78 จุด นักลงทุนขายหุ้นส่งท้ายปี

"ดาวโจนส์" ปิดลบ 59.78 จุด นักลงทุนขายหุ้นส่งท้ายปี โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,338.30 จุด ลดลง 59.78 จุด หรือ -0.16%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (31 ธ.ค.64) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในวันสุดท้ายของปี 2564 แต่ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และตลาดหุ้นนิวยอร์กสามารถฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลกได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,338.30 จุด ลดลง 59.78 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,766.18 จุด ลดลง 12.55 จุด หรือ -0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,644.97 จุด ลดลง 96.59 จุด หรือ -0.61%

สำหรับหุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มสินค้าอุปโภค เพิ่มขึ้น 0.71% ขณะที่หุ้นกลุ่มบริการสื่อสาร ลดลง 1.21% โดยเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากที่สุด

โดยในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 1.1%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.9% แต่ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.1%

ในเดือนธ.ค. ดัชนีดาวโจนส์ บวก 5.4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.4% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.7%

ในไตรมาส 4 ดัชนีดาวโจนส์ บวก 7.4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 10.7% และดัชนี Nasdaq บวก 8.3%

ส่วนทั้งปีนี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 18.7%, ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 26.9% และดัชนี Nasdaq พุ่ง 21.4% โดยดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 ปี มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542

ด้านหุ้นกลุ่มพลังงาน, อสังหาริมทรัพย์ และไมโครชิป ปรับตัวขึ้นนำตลาดในปีนี้ ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ ขณะที่หุ้นเติบโต (growth stocks) ปรับตัวขึ้น 31% และหุ้นคุณค่า (value stocks) เพิ่มขึ้น 22%

ส่วนดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่ง ซึ่งถือเป็นดัชนีบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจนั้น ปรับตัวขึ้นมากกว่า 31% ในปี 2564

ด้านหุ้นกลุ่มการเงินที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นเกือบ 33% โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่หุ้นกลุ่มเดินทางยังคงถูกกดดันจากโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาด โดยดัชนี S&P กลุ่มสายการบินปิดตลาดปี 2564 ลดลงเกือบ 2%

Back to top button