3 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” JR เป้า 10 บ. ลุ้นคว้างานใหญ่ ดันแบ็กล็อกทะลุ 1 หมื่นลบ.
3 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” JR ราคาเป้าหมาย 10 บ. ลุ้นเซ็นงานเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นใต้ดินเฟส 2 ของรถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพู ดันแบ็กล็อกทะลุ 1 หมื่นลบ.
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” นำเสนอข้อมูลบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR โดยมีนักวิเคราะห์ 3 แห่งมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ ว่าจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง พร้อมให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 10 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อหุ้นบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR ราคาเป้าหมาย 10 บาท เนื่องจากความสามารถทำกำไรจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยยะในไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไปจากงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ปัจจุบันที่สูงถึงเกือบ 5 พันล้านบาท
โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ามีลุ้นได้งานใหญ่ในช่วงปลายไตรมาส 1/2565 ในโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นใต้ดินเฟส 2 ของรถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพู ซึ่งคาดหนุน Backlog ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงโอกาสความร่วมมือกับ Partner รุกธุรกิจวิศวกรรมไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง คาดกำไรปี 2564-2565 เพิ่มขึ้น 167% จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 54% จากงวดเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ประเมินราคาเป้าหมายของหุ้น JR ที่ระดับ 9.20 บาท เนื่องจากมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในอนาคตมีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ที่มีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งศักยภาพรับงานรับเหมาวางระบบไฟฟ้า งานวางระบบสื่อสาร ICT งานรื้อย้ายสายไฟฟ้าลงดิน ซึ่งราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาซื้อขายที่ระดับ P/E 27 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่เทรดระดับ 35 เท่า
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อหุ้น JR เพราะในระยะถัดไปดูดี เป็นหุ้นที่อยู่ในโซนน่าเข้าลงทุน เนื่องจากการฟื้นตัวกำไรตั้งแต่ปี 2565 จากการกลับมาส่งมอบงานหลักใน backlog ได้ตามปกติประกอบกับงานที่เข้ามามีจำนวนมากทั้งในส่วนงานใหญ่ที่เป็นงานต่อเนื่องการนำสายไฟอากาศลงดิน เฟส 2 และงานถนัดวางระบบไฟฟ้า ซึ่งปริมาณงานจะสูงขึ้นตามนโยบายผลักดันพลังงานสะอาดของรัฐที่ยังไม่ได้นับรวมในประมาณการกำไร มูลค่าพื้นฐานปี 2565 อิง PER 22 เท่า อยู่ที่ 8.40 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรปี 2564-65 เติบโต 157% และ 27% ยังไม่รวม Upside จำนวนมาก ซึ่งฝ่ายวิจัยเริ่มเห็น Upside ที่เปิดขึ้น จากหลายส่วน โดยเฉพาะมูลค่างานใหม่ปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยกำหนดไว้ที่ 6.7 พันล้านบาท หลักๆ มาจากงานนำสายไฟฟ้าอากาศลงดิน เฟส 2 มูลค่า 6.0 พันล้านบาท ที่เหลืองานอื่นๆ 700 ล้านบาท
โดย Upside เห็นทั้งในส่วนของงานนำสายไฟฟ้าอากาศลงดิน เฟส 2 ที่มีมูลค่างานมีโอกาสสูงกว่าสมมติฐานที่ฝ่ายวิจัยรวมไว้เพียง 6.0 พันล้านบาท จากต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ขณะที่งานอื่นๆ ที่ JR เข้าร่วมปี 2565 ถึงราว 1.4 พันล้านบาท รวมถึงระยะถัดไปที่ฝ่ายวิจัยกำหนดเพียง 700 ล้านบาทต่อปี รวมถึง ปริมาณงานวางระบบไฟฟ้าที่กำลังเข้าสู่วงจรลงทุนรอบใหญ่ตามธีม Carbon Neutral
ทั้งนี้ เพื่อรอความชัดเจนของการได้งานจริงในระยะถัดไป รวมถึงการติดตามแนวโน้มประสิทธิภาพงานวางระบบไฟฟ้าที่ตามปกติแล้วในอุตสาหกรรมมีระดับไม่สูงราว คือ มีอัตรากำไรขั้นต้นราว 10%-12% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย JR ปัจจุบันที่เกิน 15%
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายสุรเดช อุทัยรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานอำนวยการ และทีมผู้บริหารของ JR นำเสนอแผนธุรกิจ โดยระบุว่าจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) มูลค่า 4,927 ล้านบาท และเดินหน้ายื่นประมูลงานใหม่ โดยเฉพาะโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูและโครงการอื่นๆ ซึ่งประเมินโค้งสุดท้ายปี 2564 มีสัญญาณดีจากการเปิดประเทศ ช่วยหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว