SNNP เล็งอัพเป้ารายได้ปี 65 ลั่นงบ Q1 “นิวไฮ” ยอดขายสินค้าใหม่หนุน

SNNP ปรับกลยุทธ์แผนด้านการตลาดเล็งอัพเป้ารายได้ปี 65 เพิ่มขึ้นจากเดิมคาดจะโตไม่ต่ำกว่า 10% เชื่อมั่นผลงาน Q1 ทำนิวไฮต่อเนื่อง ลุยเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่หนุนยอดขายโตเด่น


นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์แผนด้านการตลาดและการจำหน่ายสินค้าใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภคสินค้าของบริษัทฯ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายเดือน ม.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

สำหรับในปีนี้บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มเครื่องดื่ม เยลลี่ และขนมขบเคี้ยว และกลุ่มสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชงและกัญชาที่จะเข้ามาช่วยหนุนให้ยอดขายของบริษัทฯ มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ปรับตัวได้แล้วจากสถานการณ์ที่ผ่านมา และเชื่อว่าภาครัฐจะไม่ใช้นโยบายปิดเมือง (ล็อกดาวน์) เหมือนกับในช่วงก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามหากมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีก บริษัทฯ จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบริษัทฯ มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ในขณะเดียวกันยังมีช่องทางการจำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ราคาสินค้าของบริษัทฯ ไม่ได้สูงมากทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย

ขณะที่ด้านคำสั่งซื้อในประเทศเวียดนาม ยังคงมีเข้ามาจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มเติม แต่สถานการณ์มีความคล้ายคลึงกับประเทศไทยที่ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้นและพฤติกรรมการบริโภคเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น

“แม้ว่าเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่สูงนัก แต่อย่างไรก็ตามด้วยฐานของบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่ และมีส่วนแบ่งในตลาดประเทศไทยสูงถึง 70% เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 จะมีการเติบโตและทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2564 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัว ในขณะเดียวกันสินค้าใหม่ๆที่ออกมาได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค ทำให้สินค้าบางรายการขาดตลาดไปในบางช่วง

ดังนั้นวานนี้ (6 ม.ค. 2565) ที่ราคาหุ้นขึ้นมาปิด 14.40 บาท บวก 2 บาท หรือขึ้นไป 16.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.36 พันล้านบาท ก็อาจจะเป็นผลมาจากทิศทางผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 มีโอกาสทำนิวไฮต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2564 อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน SNNP มีกำลังการผลิตอยู่ 4 โรงงาน ใช้กำลังการผลิตเต็มทั้งหมดแล้ว ขณะที่ด้านสินค้าได้รับการตอบรับที่ดีถึงขั้นขาดตลาด

นอกจากนี้ บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ (6 ม.ค. 2565) มีการคาดการณ์กำไรไตรมาส 4 ปี 2564 จะเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และจากงวดเดียวกันของปีก่อนอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งมาจากยอดขายในเวียดนามและกัมพูชาฟื้นตัว และไทยกลับมาคลายล็อกดาวน์ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ผสานภาพรวมกำไรปี 2565 จะเติบโตอย่างมีนัยยะ จากโรงงานที่เวียดนามกลับมาก่อสร้างโดยจะเริ่มผลิตในครึ่งปีหลัง 2565 ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายและลดต้นทุน

Back to top button