ALT ปลื้มยอดใช้ Fiber Optic “นวนคร” พุ่ง 90% ชูจุดเด่นเสถียรภาพสูง-ลดลงทุนซ้ำซ้อน
ALT ปลื้มโครงการวางโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงความเร็วสูงใน “นวนคร” กระแสตอบรับดี 2 ปี จำนวนผู้เช่าใช้บริการกว่า 90% ชูจุดเด่นมีความเสถียรมากสุด แถมช่วยลดการลงทุนซ้ำซ้อนของโอเปอเรเตอร์
นางสาวปรียาพรรณ ภูวกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ALT ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL เพื่อเป็นผู้วาง และบริหารจัดการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงความเร็วสูง (High Speed Fiber Optic) ให้เช่าภายในบริเวณเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี ด้วยระยะเวลาสัญญา 16 ปี ซึ่งได้เปิดให้บริการในส่วนของโซนอุตสาหกรรมและโรงงานเมื่อช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 ล่าสุดกระแสตอบรับดีมาก มีจำนวนผู้เช่าใช้ core fiber มากกว่า 90%
“เป็นความร่วมมือระหว่าง ALT และ NNCL เนื่องจากทางผู้บริหารนวนครมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ต้องพัฒนา นวนครฯ ให้คนเข้าถึง Internet of Things (IoT) โดยเฉพาะเรากำลังเข้าสู่ยุค 5G เลยอยากให้ระบบสาธารณูปโภคด้านการสื่อสารมีเสถียรภาพ ซึ่งระบบ สายเคเบิลใยแก้วนำแสงความเร็วสูง (High Speed Fiber Optic) ได้รับการยอมรับว่า เป็นระบบการสื่อสารที่มีเสถียรภาพที่สุดในปัจจุบันนี้” น.ส.ปรียาพรรณ กล่าว
น.ส.ปรียาพรรณ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่สำคัญอีกประการที่ นวนครฯ เลือก ALT ให้เป็นผู้วาง และบริหารจัดการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วฯ ความเร็วสูง เพราะ ALT มีความเป็นกลาง สามารถบริหารจัดการได้เต็มที่ และไม่ผูกขาดการให้บริการกับลูกค้า ซึ่งถือเป็นข้อดี ขณะเดียวกันการเป็นผู้ลงทุนติดตั้งรายเดียวและให้โอเปอเรเตอร์มาใช้บริการก็สามารถช่วยลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ช่วยลดต้นทุนของโอเปอเรเตอร์ และทำให้โอเปอเรเตอร์สามารถแข่งขันได้ดี ส่งผลดีต่อผู้ใช้บริการที่มีทางเลือกที่ดีที่สุดอีกเช่นกัน
ทั้งนี้ปัจจุบัน จำนวนผู้เช่าใช้ core fiber โซนอุตสาหกรรม ของนวนครฯ มีผู้ใช้บริการแล้วมากกว่า 90% ในอนาคตหากมีการใช้บริการสายเคเบิลใยแก้วเต็ม ALT สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ โดยการติดตั้งสายเคเบิลใยแก้วเพิ่มโดยใช้เทคโนโลยีแบบเป่าสายเคเบิล (Air blow fiber Technology) เพิ่มเข้าในท่อ microduct ที่ติดตั้งสำรองไว้ตั้งแต่ต้นได้โดยไม่มีผลกระทบกับงานโยธา หรือลูกค้าภายในนวนครฯ แต่อย่างใด
นายสุทธิพร จันทวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NNCL กล่าวว่า ปัจจุบันเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ถือเป็นนิคมเก่าแก่ที่อยู่มานานกว่า 50 ปี ที่มีพื้นที่ให้บริการมากกว่า 10 ตารางกิโลเมตร มีโรงงานถึง 220 โรงงาน บ้านอยู่อาศัยกว่า 5 พันครัวเรือน มีพนักงานกว่า 8 หมื่นคน รวมๆ แล้วในนวนครมีประชากรราว 1.6-1.7 แสนคน
โดยผู้ประกอบการโรงงานเป็นโรงงานระดับโลก จากต่างประเทศหลากหลายประเทศ และมากกว่าครึ่งเป็นโรงงานที่มาจากญี่ปุ่น ด้วยความเป็นนิคมที่อยู่มานานก็เหมือนเมืองใหญ่ ทำให้บริษัทเล็งเห็นความสำคัญว่าควรต้องปรับปรุงทัศนียภาพ ระบบสาธารณูปโภค และการสื่อสารดิจิตอลที่มีความเร็วสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการและผู้อยู่อาศัยในนวนคร
ทั้งนี้ สาเหตุที่เลือกให้ ALT เป็นผู้ติดตั้ง และบริหารโครงการจัดสร้างโครงข่ายความเร็วสูงนวนคร เพราะมีความเป็นกลางในการให้บริการ ไม่แข่งขันธุรกิจกับผู้ให้บริการ และมีประสบการณ์โดยตรงในการบริหารจัดการโครงข่ายความเร็วสูงได้เป็นอย่างดี
โดยภายหลังติดตั้งสายเคเบิลใยแก้วนำแสงฯ โซนอุตสาหกรรมปรากฎว่ากระแสตอบรับจากผู้ประกอบการโรงงานดีมาก เนื่องจากระบบสื่อสารมีเสถียรภาพ ช่วยแก้ปัญหาในอดีตจากการเกิดอุบัติเหตุกรณีที่มีรถยนต์ขนาดใหญ่เกี่ยวสายสื่อสารที่รกรุงรังจนล้มลง หรือไฟไหม้จากสายสื่อสารที่พันกันยุ่งเหยิง
“ระบบตอนนี้ดีมาก สามารถรู้ได้ทันทีว่าสายขาดตรงไหน เวลาไหน และทุกโรงงานมีสายเคเบิลใยแก้วนำแสงฯ เข้าถึงโรงงานทุกโรงงาน ซึ่งในระยะยาวเป็นผลดีกับผู้ให้บริการ (โอเปอเรเตอร์) และผู้ประกอบการโรงงานโดยตรง ที่สามารถเลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการรายใดก็ได้ ไม่ต้องติดตั้งสายใหม่ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะสามารถใช้เสา และสายเคเบิลใยแก้วนำแสงฯ กลางที่มีไว้ได้เลย“ นายสุทธิพร กล่าว
นายสุทธิพร กล่าวอีกว่า ในอนาคตนวนคร ต้องการ Digital Transform โดยนวนครฯ นำเอา ดิจิตอล เทคโนโลยี มาปรับใช้กับทุกส่วนของธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบสื่อสารมองว่าเป็นหัวใจหลักของโรงงาน เพราะจะต้องใช้ระบบ Robotic ลิงค์กับ HQ ต่างประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความรวดเร็ว และเสถียรภาพที่สูงมาก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งสำคัญ เพราะการทำงานต้องอาศัยการสื่อสารที่มีความเร็วสูงมาก จากการปรับเปลี่ยนการทำงานเป็น WFH เพื่อให้การประชุมสามารถทำต่อไปได้โดยไม่สะดุด เพราะระบบการสื่อสารที่ดีทำให้ผู้ประกอบการยังเลือกที่จะยังตั้งโรงงานอยู่ในประเทศไทยต่อไป และดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องเช่นเดิม
“เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้าของ NNCL เราจึงได้ร่วมมือกับ ALT ซึ่งเป็นบริษัทระดับแนวหน้า ที่มีความชำนาญสูงในด้านการวางโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง และเป็นที่ยอมรับในด้านการบริหารงานด้านธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมทั่วประเทศ โดยให้ ALT เข้ามาวาง และบริหารจัดการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงความเร็วสูงให้เช่า ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างระบบการสื่อสารที่มั่นคง และมีเสถียรภาพ” นายสุทธิพร กล่าว