SABUY เล็งปิด 5 ดีลใหม่เฉียด 200 ลบ. ลุยเพิ่มทุน SABUYAC-เข้าถือหุ้นครบ 100%
บอร์ด SABUY เล็งปิดดีลใหม่ 5 รายการ มูลค่าเกือบ 200 ลบ. พร้อมเดินหน้าเพิ่มทุน SABUYAC เป็น 100 ลบ. และเข้าถือหุ้นครบ 100% จากเดิมถือ 90%
บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ซึ่งมีมติอนุมัติมีรายละเอียด ดังนี้
1.อนุมัติเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เพย์โพสต์เซอร์วิส จำกัด (Payspost) จาก ผู้ถือหุ้นเดิมของ Payspost ซึ่งมิได้เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกัน ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.21/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 75 จากผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 56.25 ล้านบาท
สำหรับ Payspost ประกอบธุรกิจในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ให้ผู้ประกอบการในการให้บริการด้านขนส่ง โดยการรวบรวมขนส่งชั้นนำภายในประเทศไว้ในร้านเดียว เช่น แฟลช เอ็กซ์เพรส ไปรษณีย์ไทย และ J&T Express เป็นต้น พร้อมบริการด้านสินเชื่อธนาคาร สินเชื่อทะเบียนรถ งานประกันภัย งานเอกสาร รับชำระบิลต่าง ๆ การโอนเงิน หลากหลายบริการในร้านเดียว โดยในปัจจุบัน Pays Post มีสาขาแฟรนไชส์ 1,317 สาขา อีกทั้งยังเปิดระบบบริหารจัดการ (Operating Platform) ให้กับ บริษัท เพย์พอยท์เซอร์วิส จำกัด (Pay Point) ที่มีสาขาแฟรนไซส์ จำนวนอีก 500 สาขา ซึ่งประกอบธุรกิจรูปแบบเดียวกันกับ Payspost
ทั้งนี้ ประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับจากการเข้าลงทุนในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ในการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะการขยายจุดรับชำระเงิน บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ การให้บริการ POS และยังอาจรวมไปถึงการให้บริการโอนเงิน การเพิ่มจุดเติมเงิน ช่องทางการ ขยายธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ การให้บริการให้กับธนาคารพาณิชย์ เช่น การรับ ฝากถอน เป็นต้น และเพิ่มสาขา จำนวนพัสดุในกลุ่มสะดวกส่ง และการก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ Drop-off
2.อนุมัติเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด (LBT) ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 20 จากผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 45.00 ล้านบาท
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้แก่ 1.ทำให้เกิด Business Synergy ในการบริการต่างๆ ของบริษัทฯ อันได้แก่ Payment Channel, Vending Machine และในธุรกิจ 7 สะดวกของบริษัทฯ และประหยัดเวลาในการพัฒนากลุ่มธุรกิจสะดวกซัก 2.เกิดการส่งเสริมทางการขายที่มากขึ้นด้วยการจัดทำ Promotion Campaign ระหว่างบริษัทกับ LBT 3.บริษัทฯ จะเข้าได้เข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ LBT ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจสะดวกซักในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีการใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ ที่มีคุณภาพระดับโลกและมีสาขามากว่า 600 แห่งทั่วโลก
โดย LBT เป็นผู้ให้บริการ ร้านซัก-อบผ้าแบบบริการตนเอง (Self-Service Laundry) และเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมเครื่องจ่ายน้ำยาอัตโนมัติ เพื่อส่งผ่านน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำยาฆ่าเชื้อลงเครื่อง เพื่อตอบโจทย์เรื่องความสะอาด สะดวกสบายอย่างเต็มรูปแบบ และให้บริการเครื่องซักอบแห้งที่มีคุณภาพได้มาตรฐานถูกสุขอนามัย รวดเร็ว สามารถซักและอบแห้งได้แล้วเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง
3.อนุมัติเข้าร่วมลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ซิตี้ซอฟท์อินโฟเทค จำกัด (CITY) ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 56 จากผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 58.50 ล้านบาท
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.ประหยัดเวลาในการสร้างทีมที่จะมาพัฒนาระบบ SABUY POS และ SABUY Counter ในอนาคต เนื่องจาก City มีประสบการณ์ในระบบ POS มามากกว่า 20 ปี 2.เกิดการเรียนรู้ (Learning Curve) ในการบริหารจัดการ และเทคโนโลยี ที่ เกี่ยวกับการให้บริการเครื่อง POS และ ระบบSoftware 3.เพิ่มฐานลูกค้าใน ecosystem ของ SABUY มากขึ้น จากการร่วมมือกันโดย ใช้ช่องทางการชำระเงินของสบายในระบบ POS ของ City ที่มีฐานลูกค้าใน หลากหลายประเภทธุรกิจค้าปลีก ที่เป็นรายใหญ่และเป็นที่รู้จัก และ มีโอกาสซื้อต่อเนื่องมาก
โดย CITY เป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์ (โปรแกรมสำเร็จรูปคอมพิวเตอร์) สำหรับธุรกิจต่างๆ ลูกค้าของเราส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจค้าปลีกในหลากหลายประเภท ได้แก่ กลุ่ม ร้านขายของชำ (ร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า) กลุ่มร้านค้าปลีกทั่วไป (เสื้อผ้า แฟชั่น รองเท้า เครื่องประดับ หนังสือ ยา กิ๊ฟช้อป อุปกรณ์กีฬา เพ็ทช้อป สินค้าไอทีและ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น) กลุ่มร้านขายอาหาร และเครื่องดื่ม (กาแฟ เบเกอรี่ ขนมปัง ไอศครีม ร้านอาหาร ทั้งรูปแบบ Quick service และ Full service) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
4.การลงทุนของบริษัท สบาย แอคเซลเลอเรเตอร์ จำกัด (SABUY AC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯใน บริษัท อี๊ตแล็บ จำกัด (EATLAB) สัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10.15 มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 27.55 ล้านบาท และบริษัท คีน โปรไฟล์ (ประเทศไทย) จำกัด (KEEN PROFILE) สัดส่วนไม่เกินร้อยละ 15 มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 10 ล้านบาท
สำหรับ EATLAB คือผู้ให้บริการ SaaS (Service as a Solution) แก่ร้านอาหาร เพื่อช่วยในการตัดสินใจออกแบบ เมนูอาหาร โปรโมชั่น แคมเปญ ต่างๆ ในการกระตุ้นยอดขาย โดยให้ AI ศึกษาพฤติกรรม หรือ pattern ของ ลูกค้าส่วนใหญ่ เพื่อกำหนด Discission Model ให้แก่ร้านอาหาร “ช่วยคิด โปรโมชั่น ประหยัดเวลา”
ขณะที่ KEEN PROFILE เป็นผู้ให้บริการด้าน HROD Tech ซึ่งนับเป็นธุรกิจที่มี ผู้ให้บริการน้อยรายในไทย โดยมีการพัฒนาโปรแกรมในการบริหาร ทรัพยากรบุคคลที่นอกเหนือไปจาก HR Management/Development ที่ ครอบคลุมเพียงด้านสวัสดิการพนักงาน หรือการพัฒนาพัฒนาพนักงาน ผ่านการฝึกอบรมหรือจัดทำ Workshop โดยทั่วไป แต่ยังครอบคลุมไปถึงการบริหารการมีส่วนร่วมและความผูกพันพนักงาน และการบริหารผลการดำเนินงานพนักงานผ่านตัวชี้วัดต่างๆ เช่น KPIs/OKRs อีกด้วย
5.อนุมัติเพิ่มทุนในบริษัท สบาย แอคเซลเลอเรเตอร์ จำกัด (SABUYAC) และอนุมัติสัดส่วนการลงทุนเป็นร้อยละ 100 สืบเนื่องจากคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ได้มีมติอนุมติจัดตั้ง SABUYAC เพื่อขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม และเพิ่มศักยภาพสินค้าและบริการใน Ecosystem ของกลุ่มบริษัท ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
โดย SABUY เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 90 ทั้งนี้ SABUYAC ได้เริ่มมีการพิจารณาบริษัทที่เข้าไปลงทุน 2 บริษัทคิดเป็นเงินลงทุน 37,550,000 บาท โดย SABUYAC มีความประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจต่างๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสะดวกในการบริหารของ SABUYAC จึงเสนอขอให้มีการเพิ่มทุน จาก 10 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการของ SABUYAC มีอำนาจในการเรียกเพิ่มทุนชำระตามจำนวนเงินที่ SABUY AC ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้ SABUY จะเข้าลงทุนใน SABUYAC ทั้งหมดร้อยละ 100 (จากเดิมร้อยละ 90)