สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ม.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ม.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,113.62 จุด ลดลง 176.70 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,659.03 จุด ลดลง 67.32 จุด หรือ -1.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,806.81 จุด ร่วงลง 381.58 จุด หรือ -2.51%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 486.05 จุด ลดลง 0.15 จุด หรือ -0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,201.14 จุด ลดลง 36.05 จุด หรือ -0.50%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,031.59 จุด เพิ่มขึ้น 21.27 จุด หรือ +0.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.13 จุด หรือ +0.16%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นนั้นเป็นแรงหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.13 จุด หรือ +0.16%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 84.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,821.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.5 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 23.162 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.9 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 972.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 25.80 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,890 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ 94.7989 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.06 เยน จากระดับ 114.40 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9107 ฟรังก์ จากระดับ 0.9135 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2488 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2501 ดอลลาร์สหรัฐ
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1460 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1448 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3718 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3711 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7288 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7290 ดอลลาร์