GULF-ITEL-SNNP ทะยาน “ออลไทม์ไฮ” รับปีเสือทอง โบรกฯย้ำพื้นฐานแกร่ง

GULF-ITEL-SNNP ราคาทะยาน “ออลไทม์ไฮ” รับปีเสือทอง โบรกฯย้ำพื้นฐานแกร่งเติบโตเด่นในอนาคต


เปิดศักราชใหม่ “ปีเสือทอง” 2565  เริ่มต้นตลาดหุ้นไทยทิศทางสดใส ดัชนี SET Index ค่อยๆปรับตัวขึ้นหลังสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,650 จุด ล่าสุด ณ วันที่ 14 ม.ค. 2565 ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,672.63 จุด ลบไป 7.39 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9.09 หมื่นล้านบาท

สอดคล้องกับบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1/2565 นั้น คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวขึ้น โดยประเมินกรอบ SET Index ที่ระดับ 1,600-1,700 จุด ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าทั้งภาคการบริโภคในประเทศที่ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ

ทั้งนี้ การส่งออกที่เติบโตดีต่อเนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัว การฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงขึ้นหนุนความเชื่อมั่นต่อการลงทุนปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่การท่องเที่ยวจะค่อยๆ ฟื้นตัว และมี Upside Risk หากนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล กระตุ้นบาทแข็ง เอื้อต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า

สะท้อนจากความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่เริ่มต้น โดยมูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วง 1-14 ม.ค. 2565 นักลงทุนต่างประเทศ (ต่างชาติ) ซื้อสุทธิไปแล้วจำนวน 13,761.32 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติจะมีการเข้ามาซื้อหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่ม SET50, SET 100 หรือกลุ่ม SET เป็นสำคัญ จึงไม่แปลกที่ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวต่างปรับตัวขึ้นร้อนแรง วิ่งกันทำ “ออลไทม์ไฮ” ให้เห็นเป็นระยะๆมากขึ้นจนหลายตัวราคาทะลุราคาเป้าหมายที่ทางนักวิเคราะห์ให้ไว้

โดยล่าสุด ณ ราคาหุ้นปิดในวันที่ 14 ม.ค. 2565 พบว่ามีราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงจนปิด “ออลไทม์ไฮ” ชัดเจน อย่าง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยราคาหุ้นปิดอยู่ที่ 50.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4,847.03 ล้านบาท ซึ่งราคาทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เข้าตลาด

อย่างไรก็ดีหากย้อนกลับไปดูนับตั้งแต่เปิดต้นปีของการซื้อขายจนถึงปัจจุบันที่ราคาหุ้นทะยานอย่างต่อเนื่อง วัดจากราคาปิดสิ้นปี 2564 ณ 30 ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 45.75 บาท กระทั้งเทียบกับราคาหุ้นล่าสุด 50.25 บาท พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแล้ว 9.84%

ขณะเดียวกันตอกย้ำถึงปัจจัยพื้นฐาน ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงกรณี GULF โดยคาดกำไรปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเด่นสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ทางฝ่ายวิจัยศึกษา รวมถึงคาดกำลังการผลิตรวมปี 2565 เพิ่มขึ้น 33% สู่ 5,045 เมกะวัตต์ บริษัทเน้นพลังงานทางเลือกมากขึ้น โดยคาดปีหน้าเพิ่มขึ้นราว 200-400 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามราคาก๊าซเพิ่มขึ้นกระทบจำกัด (รายได้จากนิคมฯเพียง 10% ของทั้งหมด) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 52 บาท

เช่นเดียวกับกรณี บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL โดยราคาหุ้น ณ วันที่ 14 ม.ค. 2565 ปิดอยู่ที่ 6.45 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,179.53 ล้านบาท ซึ่งนั้นราคาทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เข้าตลาด

อย่างไรก็ดีหากย้อนกลับไปดูนับตั้งแต่เปิดต้นปีของการซื้อขายจนถึงปัจจุบันที่ราคาหุ้นทะยานอย่างต่อเนื่อง วัดจากราคาปิดสิ้นปี 2564 ณ 30 ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 5.10 บาท กระทั้งเทียบกับราคาหุ้นล่าสุด 6.45 บาท พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแล้ว 26.47%

ขณะเดียวกันตอกย้ำถึงปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงกรณี ITEL โดยมองบริษัทฯ เริ่มเข้าสู่โหมดการเติบโตคาดรายงานกำไรไตรมาส 4 ปี 2564 อยู่ที่ 91 ล้านบาท จากการรับรู้งานในมือ ทำให้กำไรปี 2564 ทำจุดสูงสุดใหม่เท่ากับ 248 ล้านบาท เติบโต 35% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดกำไรเติบโตต่อเนื่อง 32% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ส่วนในปี 2565 คาดกำไร 328 ล้านบาท ซึ่งหนุนทั้ง Organic Growth โดยมี Secure backlog 1,902 ล้านบาท หรือ 73% ของประมาณการและ Inorganic growth จากการ Swap Share เข้าถือ 51% ใน Blue Solution ผู้ให้บริการ System Integrator ซึ่งมีงานรอรับรู้ในปี 2565 ราว 700 ล้านบาท

รวมทั้งกรณี บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP โดยราคาหุ้น ณ วันที่ 14 ม.ค. 2565 ปิดอยู่ที่ 16.50 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 551.11 ล้านบาท ซึ่งนั้นราคาทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เข้าตลาด

อย่างไรก็ดีหากย้อนกลับไปดูนับตั้งแต่เปิดต้นปีของการซื้อขายจนถึงปัจจุบันที่ราคาหุ้นทะยานอย่างต่อเนื่อง วัดจากราคาปิดสิ้นปี 2564 ณ 30 ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 11.90 บาท กระทั้งเทียบกับราคาหุ้นล่าสุด 16.50 บาท พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแล้ว 38.66%

ขณะเดียวกันตอกย้ำถึงปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงกรณี SNNP โดยประเมินกำไรปกติไตรมาส 4 ปี 2564 อยู่ที่ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 88% จากไตรมาสก่อน ทำสถิติสูงสุดใหม่

อีกทั้งทางฝ่ายวิจัยได้สอบถามไปยังบริษัทฯ ถึงเทรนด์ยอดขายใน ม.ค. 2565 ยังเติบโตดีต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ อย่างไรก็ตามหากกำไรไตรมาส 1 ปี 2565 ทำออลไทม์ไฮจะเป็น Upside ต่อประมาณการ เนื่องจากทางฝ่ายวิจัยคาดกำไรไตรมาส 1 ปี 2565 ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล

สำหรับปี 2565 ทางฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นปีทองของ SNNP ที่จะเห็น V-shaped recovery หลังสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศคลี่คลาย คาดประเมินกำไรปกติที่ 468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยรายได้รวมขยายตัว 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ทั้งในและต่างประเทศขยายตัวในทุก Products จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทำให้การบริโภคปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ, รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัวจาก Utilization rate ของโรงงานที่ฟื้นตัวและสัดส่วนรายได้ Traditional trade เพิ่มขึ้น, และรับรู้ Interest expenses ที่ปรับตัวลดลงเต็มปี

ขณะที่ทางฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมผลิตภัณฑ์กัญชง-กัญชาในประมาณการ เบื้องต้นประเมินรายได้จากผลิตภัณฑ์ผสมกัญชงและกัญชาแบบ Onservative อยู่ที่ 420 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 79 ล้านบาท (อิง GPM ที่ 35% สูงกว่าค่าเฉลี่ยปัจจุบันของ SNNP) หรือเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 เพิ่มขึ้น 17%

อย่างไรก็ตาม GULF, ITEL และ SNNP ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจนสามารถขึ้นทำ “ออลไทม์ไฮ” อย่างต่อเนื่อง ถือว่าอิงไปกับข้อเท็จจริงจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งในอนาคต

Back to top button