D ปลื้มรพ.ทันตกรรม BIDH กระแสดีเกินคาด มั่นใจหนุนรายได้ปี 65 โต 30%

D ปลื้มรพ.ทันตกรรม BIDH กระแสดีเกินคาด จับกลุ่มลูกค้าในประเทศระดับกลาง-ระดับบนเป็นหลัก  พร้อมขยายห้องให้บริการรักษาเพิ่ม ดึงทันตแพทย์รุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ร่วมงาน มั่นใจหนุนรายได้ปี 65 โต 30%


ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยว่า โรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) ที่บริษัทได้เปิดให้บริการไปเมื่อปี 2562 ได้ปรับแผนยุทธศาสตร์ใหม่  หันไปจับกลุ่มลูกค้าในประเทศระดับกลาง-ระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% จากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ  โดยในช่วงผ่านมากระแสตอบรับดีเกินคาด ลูกค้ามีอัตราการใช้บริการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้โรงพยาบาลทันตกรรม BIDH เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านทันตกรรม มีเทคโนโลยีในการรักษาขั้นสูง  มีความพร้อมของระบบดิจิตอลด้านทันตกรรม  มีคุณภาพการให้บริการ จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

โดยในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายว่าโรงพยาบาลทันตกรรม จะมีการเติบโตก้าวกระโดดรายได้เติบโตอย่างน้อย 30%   ขณะที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดปี 2564 รายได้จะเติบโตประมาณ 40% จากปี 2563  ที่มีรายได้ 39 ล้านบาท   โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้บริการทันตกรรมในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ

โรงพยาบาลฟัน BIDH เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2562  แต่หลังจากเปิดได้ไม่นานก็เจอผลกระทบโควิด-19 ใน 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเลย เดิมเราตั้งเป้าดึงลูกค้าต่างชาติ  แต่ปัจจุบันลูกค้าหลักๆ เป็นลูกค้าในประเทศที่มีกำลังซื้อสูง   มีทั้งดารา  นักแสดง  วงการเซเลป นักธุรกิจ ข้าราชการระดับสูง  ส่วนชาวต่างชาติจะเป็นกลุ่มที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ” ทพ.พรศักดิ์  กล่าว 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางโรงพยาบาลได้  ผศ.ทพญ.ดร. อ้อยทิพย์ ชาญการค้า มาร่วมงานและนั่งเป็นผู้อำนวยการ โรงพยาบาลได้เตรียมความพร้อมในการขยายและพัฒนาการให้บริการครอบคลุมมากขึ้น  โดยในส่วนของห้องรักษาจากเดิม 13 ห้องขยายเป็น 23 ห้อง  เพิ่มระดับคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานยุโรปและอเมริกา

นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลได้เตรียมเพิ่มทันตแพทย์รุ่นใหม่ๆ ที่มีประสบการณ์สูง จากทั้งในประเทศและต่างประเทศมาร่วมงานอีกเป็นจำนวนมาก   เพื่อรองรับการให้บริการที่คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่ม D ในปีนี้ ประเมินว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19  เริ่มคลี่คลาย 2565  โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้บริการสะสมจากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการล็อกดาวน์เป็นเวลา 1 ปี

นอกจากนี้สภาพสังคมในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับการบริการทันตกรรมเพื่อความงาม  ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจของ D  โดยปัจจุบันโครงสร้างรายได้ของ D มาจากการขายอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ด้านทันตกรรม  45% โรงพยาบาลทันตกรรม BIDH สัดส่วน 12% และคลินิก 13 สาขา 23% และ ศูนย์ทันตกรรม BIDC 23%

 

Back to top button