NUSA พลิกวิกฤตเป็นโอกาส แตกไลน์สู่ “เฮลท์แคร์” หวังปั้นรายโตแกร่ง

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า บริษัทก้าวผ่านปีที่ 25 เข้าสู่ปีที่ 26 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯได้ผ่านวิกฤตมาแล้วทุกสถานการณ์ ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้งจนถึงในยุคที่โควิด-19 มาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับธุรกิจทุกภาคส่วน

ทั้งนี้บริษัทได้มองเห็นวิกฤตนี้ และเล็งเห็นว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ รวมทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มว่าสามารถเติบโตอีกไม่จำกัด จึงปรับรูปแบบการทำธุรกิจอสังหาฯ ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงให้โรงพยาบาลพานาซีเป็นหลักนำเพื่อทำให้ธุรกิจอสังหาและเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สอดคล้องกันได้

ล่าสุด มาย โอโซน เขาใหญ่ได้จับมือกับพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำ อย่าง Kimpton /Absolute ด้วยการสร้างให้ทุกที่เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน และการดูแลสุขภาพ

โดยโมเดลแรกที่ทำให้มองเห็นว่าธุรกิจอสังหาฯมาร่วมกับธุรกิจสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม ที่ My ozone เขาใหญ่ โดยมีโรงแรมที่พัก บ้านพัก คอนโด และคลีนิคพานาซี ไว้ดูแลเรื่องสุขภาพอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในขณะที่เกิดวิกฤตโควิดทำให้สถานะการณ์โรงแรมและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจนแทบประคับประคองต่อไปไม่ไหว แต่ที่ MY OZONE กลับได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม มียอดจองที่พักเต็มมาตลอด

ทั้งนี้เกิดจากการนำทุกสิ่งมาประสานกัน ทั้งเรื่องท่องเที่ยวและสุขภาพ ผนวกกับเล็งเห็นว่าการรักษาแบบ green medicine เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและ Lifestyle ที่คนรุ่นใหม่กำลังสนใจ จึงมุ่งเน้นการรักษาและสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็น green medicine โดยเฉพาะเราทำ My Ozone เป็นโมเดลแรกที่ทำให้ ณุศาศิริฯ หันมารุกธุรกิจด้านสุขภาพอย่างเต็มสตรีม

“บริษัทยังมุ่งรุกตลาดสุขภาพอย่างจริงจัง คือ ผลิตภัณฑ์ ATK เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมี จึงลงมาทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ ATK เพื่อคนไทย เราจะมีแบรนด์ ATK เป็นของเราเองเพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ATK  ในราคาที่เป็นมิตรเข้าถึงได้ง่าย และธุรกิจ ATK ยังสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับธุรกิจของเราเป็นอย่างมาก รวมถึงเรายังมีแผนการขยายธุรกิจทางด้านพลังงานทางเลือกอีกด้วยในอนาคต” นายวิษณุ กล่าว