โบรกฯ ชี้ปี 64 ยอดขาย SPVI โตทะลัก ดันรายได้-กำไรออลไทม์ไฮ!
โบรกฯ ชี้ปี 64 ยอดขาย SPVI โตทะลัก หลังคำสั่งซื้อ iPhone12 เลื่อนจากปีก่อน-ขาย iPhone13 ไตรมาส 4 พร้อมรับอานิสงส์ WFH ดันรายได้-กำไรออลไทม์ไฮ คาดกำไรปกติเติบโตทบต้นเฉลี่ย CAGR ปี 2564-2567 ที่ 13.6%
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ม.ค.2565) เกี่ยวกับ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI ว่า คาดกำไรทั้งปี 2564 อยู่ที่ 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากทั้งคำสั่งซื้อ iPhone12 ที่เลื่อนมาจากปีก่อน บวกกับยอดขาย iPhone13 ที่มากขึ้น จากระยะเวลาขายในไตรมาส 4/2564 ที่นานกว่าปีก่อน นอกจากนี้ แรงหนุนจากเทรนด์ Work from Home และ Learn from Home จาก COVID-19 ก็เข้ามาช่วยเสริมยอดขายเป็นระลอกๆ ทำให้คาดว่าทั้งรายได้และกำไรปี 2564 จะสามารถทำ All Time High ได้ไม่ยาก ถือเป็นปีทองของกลุ่มหุ้นขายสินค้าไอทีอย่างแท้จริง
ทั้งนี้กลยุทธ์ตีตลาดการศึกษาผ่านร้าน U-Store และ A-Store ยังคงเป็นกลยุทธ์การเติบโตหลักของ SPVI ถึงแม้ว่าการขยายสาขาในปี 2564 จะพลาดเป้า โดยขยายร้าน U-Store ได้เพียง 1 แห่ง จากที่ตั้งไว้ 6 แห่ง เหตุจาก COVID-19 อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายการขยายสาขารวมไว้ที่ 10 แห่ง โดยจัดเตรียมพื้นที่รองรับไว้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดีมองว่าสตอรี่การเติบโตในปี 2565 ไม่โดดเด่น จากฐานที่สูงและมีเหตุการณ์ที่ดีผิดปกติในปีก่อน โดยคาดกำไรปี 2565 เติบโตเพียง 1.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน หลักจากการที่ไม่มีคำสั่งซื้อพิเศษช่วงต้นปีและกระแสของเทรนด์ Work from Home ที่ลดลงไม่เหมือนปี 2564 โดยคาดรายได้ปี 2565 จะชะลอตัวลง แต่มาร์จิ้นจะปรับตัวสูงขึ้น จากยอดขายกลุ่มสินค้า Gadgets ที่ฟื้นตัว จากสถานการณ์ COVID-19 ที่เบาบางลง
ทั้งนี้ Re-rate PE ลดลงเหลือ 20 เท่า จากเดิม 22 เท่า เหตุจากแนวโน้มอัตราการเติบโตที่ช้าลงและไม่มีกลยุทธ์การเติบโตใหม่ที่โดดเด่น คาดกำไรปกติเติบโตทบต้นเฉลี่ย CAGR ปี 2564-2567 ที่ 13.6% และเมื่ออิงกำไรปี 2565 ใหม่ของบล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับราคาเป้าหมายใหม่ลดลงเป็น 6.40 บาท (PE ปี 2565 ที่ 20 เท่า และ PEG ปี 2565 ที่ 1.5 เท่า) จากเดิม 6.90 บาท แต่เพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ” จากราคาหุ้นที่ลดลงมาก่อนหน้านี้