“เมย์แบงก์” มองดีล PLANB ซื้อป้าย AQUA สุดคุ้ม! รายได้เพิ่ม 20% แถม EPS ไดลูทแค่ 2%
“เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)” มอง “บวก” ดีล PLANB ซื้อป้าย AQUA สุดคุ้ม! คาดสร้างรายได้เพิ่ม 20% แถม EPS ไดลูทแค่ 2% แนะ “ซื้อ” PLANB เป้า 9.45 บ. กรุยทางขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจสื่อนอกบ้าน (OOH) แบบเด็ดขาด
บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับกรณีบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 84 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 7.22 บาทต่อหุ้น ให้กับ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เพื่อประกอบดีลซื้อบริษัทลูกของ AQUA จำนวน 2 บริษัท ซึ่งทำธุรกิจผลิตป้ายและให้เช่าป้ายกลางแจ้ง มู.ค่ารวมซื้อ 2,882 ล้านบาท โดย PLANB จะผ่อนจ่าย 4 งวด เสร็จสิ้นปี 2565 โดยแหล่งเงินซื้อจะมาจากกระแสเงินสดภายใน และจากเงิน PP จำนวน 606 ล้านบาท ขณะที่ AQUA ตกลงจะไม่ขายหุ้น PP นี้เป็นเวลา 2 ปี และจะไม่ทำธุรกิจสื่อโฆษณาอีกต่อไป
ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็น “บวก” เนื่องจากทิศทางนี้ยังคงเป็นไป Investment idea ของบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ที่มองว่าภายหลังวิกฤติโควิด-19 ทาง PLANB จะขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจสื่อ OOH แบบเด็ดขาด เป็นตัวแทนในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้าน (OOH) ไทย
โดยหลังจากดีลนี้ Revenue Capacity จะเพิ่มอีกราว 20% เป็น 9,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 ห่างเบอร์ 2 เป็นเท่าตัว เริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 1/2565 โดยคาดว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่ม 1,000 ล้านบาท หรือ 20% จากประมาณการปี 2565 ของบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
นอกจากนี้จากข้อมูลข้างต้น รายจ่ายสุทธิของดีลจะราว 2,294 ล้านบาท ขณะที่ PLANB ทำ EBITDA ได้ปีละกว่า 2,000 ล้านบาท จึงมองว่าเพียงพอ ส่วน EPS dilution จาก PP จะมีเพียงราว 2% แลกด้วยโอกาสรายได้อีก 20% ถือว่าคุ้ม
ทั้งนี้ PLANB จะจัดประชุมนักวิเคราะห์ช่วงบ่าย โดยประเด็นสำคัญ คือ แนวทางการปรับปรุงผลการดำเนินงานของ 2 บริษัทย่อยของ AQUA ซึ่งได้เข้าลงทุนในครั้งนี้ให้กลับมามีกำไรอย่างไร เนื่องจากผลการดำเนินงานของ 2 บริษัทในงวด 9 เดือนปี 2564 มีผลขาดทุนรวม 125 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) นมองว่าการมีเครือข่ายที่ใหญ่, Synergy และ Economies of scale จะทำได้ไม่ยาก โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.45 บาท/หุ้น