PLANB สยายปีกอาณาจักร “สื่อนอกบ้าน” AQUA มุ่ง “แวร์เฮ้าส์-พลังงาน” เล็งเปิดธุรกิจใหม่
PLANB ลุยขยายอาณาจักรสื่อนอกบ้านเต็มสูบ คาดป้ายใหม่หนุนรายได้เพิ่ม 1.5 พันลบ. ฟากAQUA มุ่ง 2 ธุรกิจหลักเดิม แวร์เฮ้าส์-พลังงานเผยกำลังศึกษาธุรกิจใหม่เกี่ยวกับนวัตกรรม คาดประกาศความชัดเจนภายในเดือนมี.ค.นี้
นายฉาย บุนนาค กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA และ ดร.พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 26 ม.ค. 2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้
เหตุใด AQUA จึงตัดสินใจขายธุรกิจสื่อโฆษณานอกสถานที่ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจดั้งเดิมออกไป
สำหรับ AQUA ประกอบธุรกิจ 3 ส่วน ประกอบด้วย ธุรกิจแวร์เฮ้าส์ ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสื่อโฆษณานอกสถานที่ ดังนั้นเมื่อธุรกิจสื่อโฆษณานอกสถานที่มีการเติบโตขึ้นจนถึงขีดสุดที่ AQUA จะสามารถดูแลได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องส่งมอบต่อให้กับ PLANB โดยเชื่อว่าจะสามารถดูแลต่อยอดธุรกิจตัวนี้ต่อไปได้ดีที่สุด
อะไรทำให้เชื่อว่า PLANB จะประสบความสำเร็จ “ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม” ด้วยธุรกิจป้ายของ AQUA
ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีผู้เล่นรายใหญ่อยู่ไม่กี่ราย มองว่า PLANB เป็นบริษัทที่มั่นคงและมีการเติบโตค่อนข้างดี ดังนั้นการที่ได้ส่งมอบให้กับ PLANB นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านประเทศไทย เพราะเชื่อว่าจะสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ในอนาคต
เหตุผลในการตัดสินใจซื้อธุรกิจสื่อโฆษณานอกสถานที่ จาก AQUA
มองถึงกลุ่มธุรกิจสื่อโฆษณาฯ ของ AQUA มีการกระจายตัวครอบคลุมไม่เฉพาะว่าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว และปัจจุบัน PLANB ให้ความสำคัญกับการสร้างโครงข่ายสื่อนอกบ้านที่เป็น Touchpoint ต่อผู้บริโภคตลอดเส้นทางที่อยู่นอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบนระบบรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง กลุ่มป้ายนิ่ง แอร์พอร์ต ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ซึ่งตัวธุรกิจของ AQUA ที่ได้มาน่าจะเพิ่มซินเนอร์ยี่ที่จะส่งผลตอบแทนให้กับนักลงทุนและคู่ค้าของ PLANB ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
ทิศทางแนวโน้ม โอกาส และความเสี่ยงตลาดสื่อโฆษณานอกสถานที่ในปัจจุบัน
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดโฆษณาในกลุ่มสื่อโฆษณานอกสถานที่ปรับตัวลดลง ซึ่งมาตรการปิดสถานที่ WFH ไม่ได้ส่งผลดีต่อสื่อโฆษณานอกสถานที่อย่างแน่นอน แต่หากมองในมุมที่เป็นอุตสาหกรรมที่มีเงินกว่า 100,000 ล้านบาท และปัจจุบันมาร์เก็ตแชร์ของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกสถานที่ทั้งหมดไม่ถึง 15% จึงมองว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง เห็นได้จากในต่างประเทศเมื่อคลายมาตรการล็อคดาวน์ไปประชาชนต่างโหยหาวิถีชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ซึ่งจากการข้อมูลพบว่า หลังจากการคลายมาตรการล็อคดาวน์จะฟื้นตัวได้แบบ V-shaped
AQUA มีแผนสร้างรายได้ชดเชยส่วนที่หายไป จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกสถานที่อย่างไร
ขณะนี้ AQUA กำลังศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับนวัตกรรม คาดว่าจะเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้ช่วงสิ้นเดือนนี้ถึงกลางเดือนก.พ.2565 และคาดว่าจะประกาศความชัดเจนได้ในช่วงภายในช่วงกลางเดือนมี.ค.2565
โมเดลหรือแผนธุรกิจของ PLANBเพื่อรองรับการเข้ามาบริษัทป้ายสื่อโฆษณาใหม่
แผนงานระยะสั้นในช่วงปี 2565 จะเป็นในเรื่องของการปรับปรุงแพคเกจการขายให้มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ส่วนในระยะกลางและระยะยาว เนื่องจาก PLANB มีระบบในการวัดผลการเข้าถึงสื่อได้อย่างระเอียดและแม่นยำ และสามารถตอบโจทย์ในการวางแผนสื่อในอนาคต สามารถดึงศักยภาพของทั้ง 3 สื่อไม่ว่าจะเป็นสื่อทีวี สื่อออนไลน์ สื่อโฆษณานอกสถานที่ ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ PLANB ได้ควบรวมกิจการป้ายของทางบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO มาด้วยเช่นกัน ซึ่ง PLANB คาดว่าจะมีรายได้จากการขายป้ายโฆษณาของ PLANB ร่วมกับ MACO ที่ควบรวมเข้ามาประมาณ 7,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้จากการเข้าซื้อธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านของ AQUA เข้ามาอีกประมาณ 1,500 ล้านบาท
มูลค่าเพิ่มที่จะเกิดขึ้นต่อ PLANB และ AQUA หลังทำรายการซินเนอร์ยี่ร่วมกัน
เชื่อว่าสื่อที่ PLANB ได้มาจาก AQUA จะส่งผลให้ PLANB มีอำนาจในการต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้น และมีเครือข่ายแข็งแกร่งและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถตอบโจทย์และให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เนื่องจากมีแพลตฟอร์มการให้บริการที่หลากหลาย รวมถึงสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยต่อยอดการบริการของ PLANB ให้เป็นมากกว่าแค่ “สื่อนอกบ้าน”
แผนดำเนินการในช่วงปี 2565 ของ AQUA
AQUA ยังคงเดินหน้า 2 ธุรกิจหลักที่มีอยู่ คือ ธุรกิจแวร์เฮ้าส์ และธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจแวร์เฮ้าส์ ยังคงเป็นรายได้หลักของ AQUAมีกำไรเข้ามาปีละไม่ต่ำกว่า 180-200 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถประกาศความชัดเจนของธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมได้ภายในเดือนมี.ค.2565
ในอนาคตมีโอกาสที่ AQUA จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น หรือมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายหรือไม่
ในอนาคตทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่ขณะนี้ AQUAมีแผนจะถือครองหุ้น PLANB สัดส่วน 2% ในระยะยาวและคงจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาวต่อไป