“ดาวโจนส์” เด้งแรง 600 จุด! หลังทรุดฮวบกว่า 2 พันจุด รับ GDP สหรัฐ Q4 ดีเกินคาด
"ดาวโจนส์" ดีดกลับเกือบ 600 จุด หลังร่วงยาว 9 วันกว่า 2 พันจุด รับแรงซื้อหุ้นพลังงาน หลังสหรัฐฯเปิดตัวเลข GDP ไตรมาส 4/64 ขยายตัว 6.9% สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.5%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 ม.ค. 2565 โดย ณ เวลา 22.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,731.81 จุด บวก 563.72 จุด หรือ 1.65% โดยเป็นการขานรับเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวสูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2564 อีกทั้งหุ้นทุกกลุ่มปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2564 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.5%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการที่ภาคธุรกิจเพิ่มเติมสต็อกสินค้าคงคลัง
ส่วนก่อนหน้าเศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 6.3% ในไตรมาส 1 และ 6.7% ในไตรมาส 2 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.3% ในไตรมาส 3 เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบในภาคการผลิต ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ยอดขายรถยนต์ และตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง
เมื่อพิจารณาทั้งปี 2564 เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 5.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากที่หดตัว 3.4% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากการที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 30,000 ราย สู่ระดับ 260,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 270,000 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 2 พันจุด ตลอดช่วง 9 วันทำการที่ผ่านมา จากระดับ 36,290.32 จุด เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จนถึงวานนี้ (26 ม.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 34,297.73 จุด หรือคิดเป็นการปรับตัวลดลงถึงกว่า 1,992.59 จุด หรือราว 5.8%