“ทิสโก้” คัด 3 หุ้นเด่นค้าปลีกไอที! กำไร Q4/64 นิวไฮ-พ่วงเคาะเป้าใหม่อัพไซด์สูง

“ทิสโก้” คัด 3 หุ้นเด่นค้าปลีกไอที! กำไรไตรมาส 4/2564 นิวไฮ พร้อมเคาะเป้าใหม่หนุนอัพไซด์สูง SPVI-CPW นำทีม


บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์(26 ม.ค.65) ว่า ตลาดอุปกรณ์ไอทียังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงความต้องการสินค้าไอทีต่อเนื่องจากการปรับเปลี่ยนองค์กร พฤติกรรมผู้บริโภคและการออกสินค้าใหม่การใช้จ่ายด้านไอทีของทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มที่ดีและเติบโตต่อเนื่องในปี 2565-2566

โดยการ์ทเนอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า คาดมูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกในปี 2565 มีแนวโน้มการเติบโต 5.5% มาที่ 4.5 ล้านล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นจาก 4.24 ล้านเหรียญฯ ในปี 2564 โดยกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุดได้แก่ ซอร์ฟแวร์ระดับองค์กร (Enterprise Software) 11.5% เนื่องจากองค์กรต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระยะไกลมากยิ่งขึ้น

สำหรับมูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของไทยมีทิศทางที่ดีขึ้นสอดคล้องกับตลาดโลกเช่นกัน โดยทางการ์ทเนอร์ อิงค์ คาดมูลค่าการใช้จ่ายไอทีในปี 2565 จะเติบโต 6.3% มาที่ 8.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากคาดอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาทใน ปี 2564 โดยกลุ่มที่มีการเติบโตได้สูง ได้แก่ ซอร์ฟแวร์ระดับองค์กร (Enterprise Software) 14.8% มาที่ 6.1 หมื่น ล้านบาท และอุปกรณ์ดีไวซ์ (Devices) 9% มาที่ 2.2 แสนล้านบาท

โดยแนะนำ “Overweight” กลุ่มค้าปลีกสินค้าไอที โดยมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/2564 จะออกมาโดดเด่น โดยคาดบริษัทกลุ่มค้าปลีกสินค้าไอทีได้แก่ 1.บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7, 2.บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW และ 3.บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน)หรือ SPVI จะรายงานกำไรสุทธิสร้างสถิติสูงสุดใหม่ ทั้ง 3 บริษัท จากเป็นช่วง High season สำหรับกลุ่มสินค้าไอทีจากการเปิดตัวสินใหม่ของหลาย แบรนด์ในปลายไตรมาส 3 และเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาส 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าแบรนด์ Apple ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายเร็วและเต็มไตรมาส รวมทั้งการเร่งขยายสาขาของแต่ละบริษัท

COM7 โดยคาดจะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2564 ด้วยการสร้างกำไรสูงสุดอีกครั้งมาที่ 701 ล้านบาท เติบโต 26% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากคาดรายได้จะเติบโตมาที่ 15,958 ล้านบาท จากเป็น high season สำหรับสินค้าที่เปิดตัวและวางจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ความ ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ COM7 ได้สิทธิในการบริหารสินค้าในห้างสรรพสินค้า Big C จำนวน 45 สาขา อีกทั้ง การเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ realme ที่ COM7 จะเป็น Sole Distributor จัดจำหน่าย สินค้าในกลุ่ม Internet of Things (IoT) ของแบรนด์ อาทิ โทรทัศน์ นาฬิกา หูฟังและพาวเวอร์แบงก์ เป็นต้น จะเข้ามาช่วยเสริมรายได้ของบริษัท อย่างไรก็ตามคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงมาอยู่ที่ 12.2% จาก 15% ใน ไตรมาส 3/2564 จากสัดส่วนสินค้า Apple เพิ่มสูงขึ้น

โดยคาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 2,425 ล้านบาท เติบโต 63% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงจากอานิสงส์ความต้องการ สินค้าไอทีที่ยังมีต่อเนื่องจากการเรียนและทำ งานที่บ้านจากการระบาดโควิด-19 นอกจากนี้ ด้วยปัญหาการขาด แคลนชิปเป็นผลบวกต่อบริษัทในแง่ของอัตรากำไรจากบริษัทสามารถปรับขึ้นราคาและไม่จำเป็นต้องทำโปรโมชั่นด้าน ราคากระตุ้นยอดขาย

CPW คาดกำไรสุทธิเติบโตสูง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามสินค้าใหม่และการรับรู้ IBIZ Plus คาดผลประกอบการจะเติบโตได้สูง เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 47 ล้านบาท แม้จะมีฐานที่สูงในไตรมาส 4/2563 จาก 1) เป็นช่วง High season สำหรับสินค้าที่วางจำหน่ายของแบรนด์ Apple และ 2) CPW เข้าซื้อ กิจการไอบิส พลัส เน็ทเวอร์ค จำกัด (IBIZ Plus) ซึ่งเป็นมีธุรกิจค้าปลีกและค่าส่งโทรศัพท์มือถือ มี จำนวนทั้งสิ้น 56 สาขา

โดย CPW เริ่มรับรู้รายได้และกำไรของ IBIZ Plus ในไตรมาส 4/2564 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม จากการเข้าซื้อกิจการ IBIZ Plus ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าของบริษัท และสัดส่วน สินค้าแบรนด์ Apple ที่สูงในไตรมาส คาดอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/2564 จะลดลงมาอยู่ที่ 10.8% เทียบกับ 14% ในไตรมาส 3/2564 และ 12.9% ในไตรมาส 4/2563 โดยสำหรับปี 2564 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มมาที่ 5,154 ล้านบาท (54% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)

SPVI คาดกำไรกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2564 จะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2564 อยู่ที่  14 ล้านบาท และ 42 ล้านบาท โต 25% เทียบไตรมาส 4/2563 หลักๆ มา จากสินค้าแบรนด์ Apple ที่วางจำหน่ายเต็มไตรมาส รวมกับยอดขายสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างดี จากมีความต้องการที่อันมา (Pent-up demand) ในช่วงการล็อกดาวน์ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 9.7% ลดลงเล็กน้อย เทียบไตรมาสก่อนหน้า สำหรับปี 2564 คาดกำไรสุทธิจะสร้างสถิติใหม่ด้วยกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท เติบโต 60% จากรายได้ที่คาดจะเพิ่มขึ้น 47% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมาที่ 5,302 ล้านบาท จากความ ต้องการสินค้าไอทีและการขยายสาขาของบริษัท

คงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ COM7 และ SPVI ปรับคำแนะนำเป็น “ถือ” สำหรับ CPW

COM7 ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าที่เหมาะสม 93 บาท อิงจาก PER 35 เท่าปี 2565 ปัจจุบัน COM7 ซื้อขายอยู่ที่ PER 28.6 เท่าปี 2565 ด้วยคาดผลประกอบการเติบโต 31.9% ในปี 2565F ดังนั้น PEG อยู่ที่ 0.9 เท่า ต่ำกว่า PEG ของกลุ่มค้าปลีกที่ 1.34 เท่า

CPW ปรับคำแนะนำเป็น “ถือ” มูลค่าที่เหมาะสมใหม่ 6 บาท (จากเดิม 4.90 บาท) อิงจาก PER 30 เท่าปี 2022 โดยให้การเติบโตจากการขยายธุรกิจหลังการเข้าซื้อ IBIZ Plus รวมทั้งการขยายสาขาสำหรับธุรกิจหลักของบริษัท U-Store A-Store

SPVI : ยังคงแนะ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสมใหม่ 8.50 บาท (จากเดิม 3 บาท) จาก PER 25 เท่า 2565 เพื่อสะท้อนการเติบโตของบริษัทที่เฉลี่ย 20% ต่อปี ปัจจุบัน SPVI ซื้อขายอยู่ที่ PER 18.8 เท่าปี 2022 ซึ่งต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ COM7 ที่ 28.6 เท่าและ CPW ที่ 27.2 เท่า

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button