FTE ปักธงรายได้ปี 65 โต 20% ลุยแตกไลน์สินค้า ตุนแบ็กล็อก 480 ลบ.

FTE ปักธงรายได้ปี 65 โต 20% แตะ 1.20 พันลบ. ตุนแบ็กล็อก 480 ลบ. รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 8% ครองมาร์เก็ตแชร์อับดับหนึ่งต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ลุยแตกไลน์สินค้า มุ่งเน้นภาคเอกชน เจาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม เสริมศักยภาพการเติบโต


นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 20% หรือ 1,200 ล้านบาท รวมถึงบริหารจัดการต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายให้รัดกุมมากขึ้น รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 8% ครองมาร์เก็ตแชร์อับดับหนึ่งต่อเนื่อง

สำหรับการดำเนินงานในปีนี้บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก ประกอบด้วย การเพิ่มธุรกิจใหม่นำเข้า – จัดจำหน่ายอุปกรณ์นิรภัยส่วนบุคคลทุกชนิดในโรงงาน อาทิ เครื่องล้างตาฉุกเฉิน ร้องเท้านิรภัย แว่นตานิรภัย ชุดกันสารเคมี รวมถึง แผ่นดูดซับสารเคมี ตู้กันสารเคมีระเหย พาเลทรองสารเคมีรั่วไหล ฯลฯ ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าชั้นนำที่มีมาตรฐาน อาทิ Romold, Brady, MSA, Ensico, Spill Station, Spillfix, Honeywell, Lakeland เพื่อขยายฐานผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และถือเป็นการขยายฐานรายได้ เสริมศักยภาพการเติบโต

“ภาพรวมตลาดอุปกรณ์นิรภัยส่วนบุคคลมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเล็งเห็นว่ายังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมมีพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยบริษัทสามารถต่อยอดการขายจากการออกแบบติดตั้ง และจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงได้” นายทักษิณ กล่าว

อีกทั้งมีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ดับเพลิงรูปแบบต่างๆ ที่มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ (Data Center) ซึ่งเป็นงานที่มีมาร์จิ้นสูง เพิ่มโอกาสความสามารถการทำกำไร และเป็นงานที่สามารถรับรู้รายได้ภายใน 3-6 เดือน

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ติดตามการประมูลและเตรียมเสนองานอย่างต่อเนื่องทั้งภาครัฐและเอกชนโดยในช่วงไตรมาส 1/2565 มีโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลพิจารณาการออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงโครงการต่างๆ มูลค่ารวมประมาณ 250 ล้านบาท คาดว่าจะมีโอกาสรับงานประมาณ 30% สำหรับมูลค่างานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ 480 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 150 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 330 ล้านบาท

Back to top button