GULF เซ็น Singtel-ADVANC ตั้ง “ดาต้าเซ็นเตอร์” กลางปี 65 คาดดึงลูกค้ารายใหญ่เพียบ
GULF เซ็นสัญญาร่วมมือ Singtel-ADVANC เดินหน้าจัดตั้ง "ดาต้าเซ็นเตอร์" ในไทยกลางปี 65 หลังสรุปแผนชัดเจนภายในไตรมาส 1/65 คาดดึงลูกค้ารายใหญ่เข้าใช้บริการเพียบ มั่นใจหนุนการเติบโตระยะยาม
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 3 ก.พ.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้
การเข้าลงนามเพื่อศึกษาในธุรกิจ Data Center ก่อนหน้านี้มีความแตกต่างอย่างไรกับการลงนามเพื่อพัฒนาธุรกิจ Data Center อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ที่ได้ลงนามร่วมกับ Singtel เพื่อศึกษาในธุรกิจ Data Center นั้นเป็นเรื่องของการศึกษาเกี่ยวกับตัว Business Model ด้านต่างๆ ศึกษาสถานที่ที่จะตั้ง Data Center รวมถึงศึกษาเรื่องการจ่ายไฟฟ้าเพื่อใช้สำหรับ Data Center และเมื่อมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนขึ้น จึงเริ่มมีการพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในธุรกิจ Data Center โดยความร่วมมือพัฒนาในครั้งนี้ได้ดึง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เข้ามาด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากตอนลงนามเพื่อศึกษาธุรกิจ Data Center ที่ยังไม่ได้ดึง ADVANC เข้ามาร่วมด้วย
ขั้นตอนการดำเนินการจัดตั้ง Data Center
ก่อนอื่นจำเป็นจะต้องหาสถานที่ตั้ง Data Center ที่จะสามารถตอบโจทย์ให้กับกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด เนื่องจากความต้องการของลูกค้าแต่ละรายแตกต่างกัน ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาและแสวงหาสถานที่ตั้งให้เหมาะสม อีกทั้งยังจำเป็นจะต้องหาสถานที่ที่โรงไฟฟ้าของ GULF จะสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าให้กับ Data Center ได้อย่างเหมาะสม เนื่องจาก Data Center มีต้นทุนค่าไฟฟ้าค่อนข้างสูง ซึ่งขนาดของพื้นที่ในการตั้ง Data Center นั้นขึ้นอยู่กับเมกะวัตต์ โดยปัจจุบันประเทศไทยมี 50 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 300 เมกะวัตต์ภายใน 7-8 ปีข้างหน้า
ขณะที่ปัจจุบัน GULF ได้ลงนามสัญญาโซลาร์รูฟท็อป และคาดว่าจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2565 ประมาณ 100 เมกะวัตต์ ทั้งนี้เนื่องจาก Data Center จำเป็นจะต้องใช้ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตัวโซลาร์รูฟท็อปจะไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงต้องใช้โรงไฟฟ้าที่เป็นก๊าซไปก่อน แต่อย่างไรก็ดี GULF ก็สามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและจ่ายไฟฟ้าให้กับ Data Center ได้บ้าง อีกทั้งในอนาคตหน่วยไฟที่ได้จากการผลิตโดยโซลาร์รูฟท็อปก็สามารถขายผู้ที่มีความต้องการใช้ หรือขายคาร์บอนเครดิตได้ด้วย
ทั้งนี้คาดว่าในช่วงไตรมาส 1/2565 จะเห็นแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสถานที่ตั้ง ลูกค้า เป็นต้น และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ช่วงกลางปี 2565 จากนั้นอาจจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง ที่จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามา
จากการผนึกเป็นพันธมิตรร่วมกับ Singtel และ ADVANC ในการพัฒนาธุรกิจ Data Center ทาง GULF มีเป้าหมายและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจไว้อย่างไรบ้าง
ในส่วนของ Singtel นั้นมีประสบการณ์และความชำนาญในด้านเทคโนโลยีสำหรับ Data Center อยู่แล้ว รวมทั้งยังมีฐานลูกค้าที่ต้องใช้ฐานการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ (Hyperscalers) และหลากหลายทั่วโลก อาทิ กูเกิล เฟซบุ๊ก อะเมซอน และไมโครซอฟท์ เป็นต้น จึงคาดว่าจะสามารถดึงลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเข้ามาใช้บริการ Data Center ของเราได้ เช่นเดียวกับในส่วนของ ADVANC ที่มีประประสบการณ์และความชำนาญในด้าน Data Center โดยปัจจุบัน ADVANC มี Data Center อยู่ 9 แห่งทั่วประเทศ
ความคาดหวังในธุรกิจ Data Center ที่ถือว่าเป็น New S Curve ของ GULF
เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล ดิจิทัลแพลตฟอร์มมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก รวมถึง กลุ่มอีคอมเมิร์ช เช่น ช้อปปี้ ลาซาด้า กลุ่มโซเชี่ยลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ต่างก็มีความต้องการใช้ข้อมูลค่อนข้างเยอะจึงจำเป็นต้องมีการจัดเก็บข้อมูล นอกจากนี้องค์กรธุรกิจเริ่มทยอยปรับตัวเข้าสู่การเป็นดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี AI, Big Data, ซอฟแวร์ต่างๆ ฉะนั้นจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพบว่าความต้องการมีการเติบโตมากกว่า 20% ภายใน 7 ปีข้างหน้า
ดังนั้นจากการที่ได้เล็งเห็นถึงโอกาสเติบโตในธุรกิจ Data Center จึงต้องการที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจนี้ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างการเติบโตในระยะยาวให้กับ GULF แล้ว ยังตอบโจทย์การซินเนอร์ยี่ในการขายไฟฟ้าของ GULF อีกด้วย