“ดาวโจนส์” ปิดลบ 21 จุด หลังสหรัฐฯ เปิดตัวเลขจ้างงานพุ่ง หวั่น “เฟด” เร่งขึ้นดบ.
“ดาวโจนส์” ปิดลบ 21 จุด นักลงทุนวิตกตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง หวั่นเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดเร่งขึ้นดบ.เร็วกว่าคาดการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (4 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ฟื้นตัวขึ้นมายืนปิดตลาดในแดนบวกได้โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทแอมะซอน และนักลงทุนได้ปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนม.ค. ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,089.74 จุด ลดลง 21.42 จุด หรือ -0.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,500.53 จุด เพิ่มขึ้น 23.09 จุด หรือ +0.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,098.01 จุด เพิ่มขึ้น 219.19 จุด หรือ +1.58%
สำหรับในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.1%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.6% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.4%
ส่วนหุ้นแอมะซอน.คอม พุ่งขึ้น 13.5% หลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/2564 ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นราว 1.90 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นวันเดียวมากที่สุดของบริษัทสหรัฐ
อีกทั้งหุ้นสแนป พุ่งขึ้น 58.8% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2564 และแนวโน้มผลประกอบการที่ดีเกินคาด
นอกจากนี้หุ้นพินเทอเรสต์ พุ่งขึ้น 11.2% หลังรายงานรายได้รายไตรมาสสูงเกินคาด
ด้านหุ้นกลุ่มต่างๆ ในดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ขณะที่หุ้นเฮสส์ คอร์ป พุ่งขึ้น 4% ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557 ขณะที่หุ้นอ็อกซิเดนทัล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 2% ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563
ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย พุ่งขึ้น 3.7% โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการของแอมะซอน และการพุ่งขึ้นของหุ้นแอมะซอนได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ที่ดิ่งลง 9.7% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
ทั้งนี้จากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นนั้นได้ส่งผลกระทบต่อตลาดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่หุ้นกลุ่มการเงิน อาทิ แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป, มอร์แกน สแตนลีย์ และเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวขึ้นราว 1.8-4% โดยได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2562 หลังจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง
โดยนักลงทุนวิตกว่าตัวเลขจ้างงานดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%