ครม.ถอนวาระต่อสัมปทานสายสีเขียว หลัง 7 รมว.ภูมิใจไทย ส่งใบลาไม่ร่วมประชุม!

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถอนวาระการประชุม รถไฟฟ้าสายสีเขียว หลัง 7 รัฐมนตรีภูมิใจไทยนำทีมโดย”อนุทิน” ลาประชุม คัดค้านการขยายสัมปทาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ( 8 กุมภาพันธ์ 2565 ) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการถอนวาระโครงการ ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ ที่เสนอโดยกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความเห็นชอบผลการเจรจาและความเห็นชอบในการร่างสัญญาเพื่อร่วมลงทุนในโครงการเพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี’72 ออกไปเป็นปี 2602 แลกกับเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.ในวันนี้ โดยได้ยื่นใบลาประชุม ครม.ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (7 ก.พ.) และแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย ทำให้ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีเพียง นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมเพียงคนเดียว

โดยส.ส.พรรคภูมิใจไทยได้รวมตัวกันแถลงข่าว สนับสนุน 7 รมต.ของพรรค ในการลาประชุมครม. โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ส.ส.พรรค ภูมิใจไทย เห็นด้วยกับการที่รัฐมนตรีทั้ง 7 คน ของพรรคภท. ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการพิจารณาวาระขอความเห็นชอบ ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเห็นว่าหากดำเนินการไปจะกลายเป็นภาระของประชาชน เนื่องจากกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย ซึ่งหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม เห็นว่า สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดต่ำกว่า 65 บาทได้ นอกจากนี้ยังให้ความเห็นว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล หากมีการอนุมัติวาระดังกล่าวจะส่งผลในทางกฎหมายในอนาคตได้

“ขอบคุณที่ผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย มีแนวทางชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะเรื่องเป็นภาระโดยตรงของประชาชนทุกระดับ ขอบคุณที่กล้าสู้ แม้จะอยู่ใน ครม.ชุดเดียวกัน” นายสิริพงศ์ อังคสกุล กล่าว

Back to top button