SCGP ตั้งเป้าปี 65 กวาดรายได้กว่า 1.4 แสนลบ. ลุยขยายกำลังผลิต-ปิดดีล M&P
SCGP ตั้งเป้าปี 65 กวาดรายได้กว่า 1.4 แสนลบ. พร้อมตั้งงบลงทุน 2 หมื่นลบ. เดินหน้าขยายกำลังผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ-ปิดดีล M&P ประมาณ 2-3 ดีล
นายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 8 ก.พ.2565 ว่า ในช่วงปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 124,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในกลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก การเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในรูปแบบ Organic Expansion และ Merger and Partnership (M&P) ส่วนกำไรสุทธิ 8,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับภาพรวมของปี 2565 บริษัทยังคงยึดใน 4 กลยุทธ์หลัก ไม่ว่าจะเป็น Quality Growth หรือการมุ่งเน้นเติบโตจากการควบรวมกิจการ (M&P) และ Organic Expansion, Packaging Solutions, Operational Excellence และ ESG & Sustainability ทั้งนี้ตั้งเป้ารายได้รวมกว่า 140,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 124,000 ล้านบาท ด้านงบลงทุนยังเป็นไปตามแผนของบริษัทระยะ 5 ปี ที่ตั้งไว้รวมประมาณ 100,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 20,000 ล้านบาท โดยจะเน้นให้เข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น โดยใช้ Innovations และ Packaging solutions
โดยในปี 2565 จะใช้ลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ใช้ในการควบรวมกิจการ (M&P) ประมาณ 10,000 ล้านบาท รวมถึงใช้ในการบำรุงรักษา (Maintenance) ประมาณ 5,000 ล้านบาท และการขยายกำลังการผลิต Organic Expansion ประมาณ 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้การทำ M&P เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้มีการเติบโต โดยในปี 2565 ก็ยังจะคงเดินหน้าทำ M&P ต่อเนื่อง ซึ่งปกติที่ผ่านมาจะมีประมาณ 2-3 ดีลต่อปี ซึ่งบริษัทยังเน้นมิภาคอาเซียนเป็นหลัก โดยเฉพาะการขยายธุรกิจปลายน้ำ
ส่วนแผนการขยายตลาดในปีนี้ยังคงเน้นการทำตลาดในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และจะทำตลาดในยุโรปมากขึ้น ภายหลังจากได้เข้าลงทุนใน Deltalab, S.L. ประเทศสเปน
อีกทั้งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ของ United Pulp and Paper Co., Inc. (UPPC) ประเทศฟิลิปปินส์ อีก 220,000 ตันต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2565 และขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศไทยและประเทศเวียดนามอีก 1,838 ล้านชิ้นต่อปี คาดว่าแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2565 ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนสัดส่วนรายได้ต่างประเทศปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิมอยู่ที่ 57% ของรายได้รวม