IRPC โชว์งบปี 64 พลิกกำไร 1.45 หมื่นลบ. แจกปันผล 0.14 บ. ขึ้น XD 22 ก.พ.นี้

IRPC รายงานงบปี 64 พลิกกำไร 1.45 หมื่นลบ. จากปีก่อนขาดทุน 6.15 พันลบ. พร้อมแจกปันผล 0.14 บ. ขึ้น XD 22 ก.พ.65 กำหนดจ่าย 22 เม.ย.65


บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิดังนี้

โดยบริษัทมีรายได้จากการขายสุทธิสำหรับปี 2564 จำนวน 235,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 55 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณขายลดลงร้อยละ 1 โดยโรงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 192,000 บาร์เรลต่อวัน เทียบเท่ากับปี 2563

นอกจากนี้ บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 29,588 ล้านบาท (13.12 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลายมากขึ้น จากการที่ประชากรทั่วโลกได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น และหลายประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ขณะที่ต้นทุน Crude Premium ปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2563 ที่ราคาเฉลี่ย 42.21 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็น 69.24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสถานการณ์ตลาดน้ำมันดิบที่อยู่ในสภาวะตึงตัว โดยมีสาเหตุหลักจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19

ประกอบกับกลุ่มโอเปกและพันธมิตรร่วมมือกันลดกำลังการผลิต โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียที่ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงต้นปี ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 11,104 ล้านบาท หรือ 4.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ประกอบด้วยกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 13,112 ล้านบาท

ขณะที่ขาดทุนจากค่าเผื่อการลดลงจากสินค้าคงเหลือ (LCM) 54 ล้านบาท และขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่เกิดขึ้นจริง (Realized Oil Hedging) 1,954 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 1,589 ล้านบาท หรือ 0.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 40,692 ล้านบาท หรือ 18.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 22,867 ล้านบาท หรือ 9.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มีค่าใช้จ่ายดำเนินงานจำนวน 13,594 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2 ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จำนวน 26,961 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,269 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 475

นอกจากนี้ บริษัทฯ บันทึกค่าเสื่อมราคาจำนวน 8,587 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 ต้นทุนทางการเงินสุทธิ จำนวน 1,699 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ขาดทุนจากการทำสัญญาอนุพันธ์ทางการเงิน 302 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28 และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ จำนวน 474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 472 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่า

โดยบริษัทฯ มีเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ จำนวน 140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2564 นอกจากนี้บริษัทฯ บันทึกกำไรจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 313 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 961 ล้านบาท กำไรจากการลงทุน 719 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 112 และบันทึกภาษีเงินได้จำนวน 2,351 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีเครดิตภาษีเงินได้ จำนวน 1,554 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2564 มีกำไรสุทธิ 14,505 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 6,152 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากกำไรสะสม เป็นเงินสด 0.14 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 22 ก.พ. 65 และกำหนดจ่ายปันผล 22 เม.ย.65

Back to top button