โบรกมอง 10 หุ้น “ท่องเที่ยว-ค้าปลีก” เด่น ลุ้นต่างชาติเข้าไทยปีนี้ 10 ล้านคน!
โบรกฯมอง 10 หุ้นในกลุ่ม “ท่องเที่ยว-ค้าปลีก” น่าสนใจและคาดมีแรงเข้าเก็งกำไรคึกคัก หลังรัฐฯตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติปี 65 ที่ระดับ 10 ล้านคน พร้อมชู MINT-AOT-MAKRO เด่น
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ประเมินตลาดวันนี้ (11 ก.พ.65) คาด “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,695 / 1,685 จุด และแนวต้านที่บริเวณ 1,710 / 1,715 จุด
โดยคาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลข CPI เดือน ม.ค. ออกมา +7.5% จากปีก่อน มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +7.3% สูงสุดในรอบ 40 ปี
ขณะที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับ 2.23 แสนราย เป็นปัจจัยเร่งการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ให้เร็วกว่าตลาดคาดไว้ก่อนหน้า
โดยล่าสุด CME FED Watch Tools สะท้อนนักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. นี้ 0.50% ที่โอกาสราว 80.0% เร่งตัวจากช่วงก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับเพียง 20.0-30.0% ขณะที่คาดว่าในช่วงเดือน มิ.ย. ดอกเบี้ย สหรัฐจะขึ้นไปสูงขึ้น 1.25% สะท้อนความกังวลต่อการเร่งตัวขึ้นแรง-ต่อเนื่องของเงินเฟ้อสหรัฐที่มีต่อตลาดทุน
อีกทั้งเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) กลับมาเร่งตัวขึ้นแรงอีกครั้ง โดยเช้านี้รุ่นอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 2.0346% (+5.50%) มองการเร่งตัวขึ้นเร็วเกินไปยังคงเป็นปัจจัยกดดันส่วน ต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัย (Earning Yield Gap) แคบเร็ว จำกัด Upside ของตลาด กดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามไม่ได้เห็นภาพดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) เร่งตัวขึ้นเร็วหลังการรายงานตัวเลขดังกล่าว ซึ่งทำให้คาดว่าตลาดในภูมิภาคอาจจได้รับแรงกดดันน้อยกว่าตลาดสหรัฐ ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. เมื่อคืนนี้ผันผวนออกด้านข้าง ปิดที่ระดับ 89.88 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.22 ดอลลาร์ (+0.25%) ยังคงได้แรงหนุนระยะสั้นจากการที่ EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.8 ล้านบาร์เรล สวนทางจากที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 แสนบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐที่แข็งแกร่ง
พร้อมกันนี้ คาดการที่คณะบริหารของ ปธน.โจ ไบเดน ได้ยกเลิกสถานะคว่ำบาตรของอิหร่าน มองเป็นการส่งสัญญาณเตรียมอนุญาตให้อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบได้ในระยะถัดไป คาดจะกดดันราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงาน ได้อยู่ สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง
โดยตั้งแต่ต้นปีนี้ซื้อไปแล้วกว่า 5.21 หมื่นล้านบาท แม้จะเผชิญความกังวลจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED ก็ตาม โดยคาดจะยังหนุนหุ้นในกลุ่ม BIG Cap ปรับตัวขึ้นได้ต่อ พร้อมแนะนำให้ติดตามตัวเลขสถานะคงค้างในตัว SET50 Index Futures โดยล่าสุดเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 5.43 แสนสัญญา หากตัวเลขดังกล่าวเริ่มลดลง จะเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงแนวโน้มการขายทำกำไรของตลาดหุ้นไทยได้ ในส่วนของการที่ ททท. ออกมาคาดการณ์ภาคการท่องเที่ยวไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วและจะสามารถ ฟื้นตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
รวมทั้งรัฐบาลตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ระดับ 10 ล้านคนในปี 65 สูง กว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาดที่ราว 6 ล้านคน คาดจะกระตุ้นแรงเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม โรงแรม (AOT, AWC, CENTEL, ERW และ MINT) เพิ่มเติม Valuation ในปัจจุบัน EV/Forward EBIDA อยู่ที่ ระดับ 18.75 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ระดับ 56.13 เท่า
อีกทั้งคาดว่าหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (MAKRO, CPALL, BJC, HMPRO, GLOBAL) จะเริ่มกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้งหลัง Valuation ในปัจจุบัน Price/Sale อยู่ที่ระดับ 0.84 เท่า หรืออยู่ที่บริเวณ -3 S.D. จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ระดับ 1.2 เท่า