UPA อัดฉีด 817 ลบ. ถือหุ้น AIFS รุก “คริปโท” ลาว – ซื้อเครื่องขุด 2 พันชุด

UPA เข้าลงทุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศลาว เตรียมซื้อเครื่องขุด 2 พันเครื่อง มูลค่าลงทุนรวม 817 ลบ. หวังเพิ่มรายได้ช่องทางใหม่ คาดเริ่มใช้เงินลงทุนตั้งแต่ก.พ.นี้


บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซี หรือการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ในวงเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 817.7 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารที่ 32.708 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65)

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทยอยเข้าลงทุนเป็นเฟส ๆ ตามความเหมาะสม โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มใช้เงินลงทุนดังกล่าวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 เป็นต้นไป

สำหรับการลงทุนใน 2 รูปแบบ คือ 1.ลงทุนในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขอรับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี โดยลงทุนผ่านบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงค์โปร์ในฐานะ holding company และ บริษัทที่จะจัดตั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเป็นการร่วมลงทุนกับ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited (AIFS)

โดยมีรูปแบบการลงทุนคือ บริษัทฯ และ AIFS จะถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ (Singapore Holding) ในสัดส่วนฝ่ายละ 50% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และ Singapore Holding จะถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Laos Holding) และ Laos Holding จะเข้าลงทุนร่วมกับหุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเพื่อขอรับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Operating Company) ในสัดส่วนฝ่ายละ 50% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (การลงทุนในหุ้น)

ทั้งนี้ Operating Company จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี โดยบริษัทฯ และ AIFS ได้เจรจากับหุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อจัดสรรผลประโยชน์ระหว่างกัน โดยแบ่งผลประโยชน์ตามที่ตั้งของเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี โดย บริษัทฯ และ AIFS ผ่าน Laos Holding จะเป็นผู้รับผลประโยชน์ (เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีที่ขุดได้) และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของ Operating Company ที่ได้รับจากเหมืองขนาด 30 เมกะวัตต์ โดยจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว จำนวน 30 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็น 1) การซื้อไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ ที่เหมืองที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งสามารถรองรับเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีได้ถึง 6,000 เครื่อง และ 2) การซื้อไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ เพื่อสำรองการขยายโครงการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีแผนการดังกล่าว

โดยเบื้องต้นบริษัทฯ และ AIFS คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 31.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 1,033.57 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารที่ 32.708 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565) เพื่อก่อสร้างโรงงาน พัฒนาโครงการ และติดตั้งเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี จำนวนไม่เกิน 5,000 เครื่อง โดยบริษัทฯ และ AIFS จะลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นใน Singapore Holding Company โดยเงินลงทุนในส่วนของบริษัทฯ จะมีมูลค่าเท่ากับ 15.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 516.79 ล้านบาท

ขณะที่ 2.ลงทุนในเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี จำนวนไม่เกิน 2,000 เครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 9.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 300.91 ล้านบาท เพื่อเข้าทำสัญญากับบริษัทในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี โดยบริษัทฯ มีหน้าที่จัดหาเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีและคู่สัญญามีหน้าที่ดำเนินการธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งรวมถึงการจัดหาและรับผิดชอบค่าไฟฟ้า คนงาน และค่าใช้จ่าย ๆ อื่น ซึ่งรวมถึงค่าภาษีอากรทั้งหมด โดยมีอัตราการแบ่งผลประโยชน์ 60 – 40 คือ บริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์ในสัดส่วน 60% และคู่สัญญาได้รับผลประโยชน์ 40% ของเหรียญที่สามารถขุดได้ โดยสัญญาดังกล่าวสามารถรองรับเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีได้ถึง 2,000 เครื่อง (สัญญา 60-40) (การลงทุนในทรัพย์สิน)

ทั้งนี้ การลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนให้หุ้น หรือการลงทุนในทรัพย์สินนั้น จะเป็นการขุดคริปโทเคอร์เรนซีสกุลบิทคอยน์เป็นหลัก อย่างไรก็ดีบริษัทฯ สามารถและอาจพิจารณาปรับเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีบางส่วนเพื่อขุดคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น เช่น อีเธอร์ (Ether) หรือ ไลท์คอยน์ (Litecoin) ได้

โดยบริษัทฯ คาดว่าการลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ โดยเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างทางเลือกใหม่ในการลงทุน และสร้างรายได้ให้บริษัทฯ นอกเหนือไปจากรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า ธุรกิจสาธารณูปโภค ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจกัญญาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์โดยเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจหลักในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงหากประสบผลสำเร็จ โดยบริษัทฯ พิจารณาที่จะลงทุนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความสามารถในการผลิตกระแสไฟฟ้าและราคาค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการประกอบธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีซึ่งการลงทุนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนั้นบริษัทฯ ได้มีพันธมิตรที่มีประสบการณ์การดำเนินธุรกิจในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ AIFS เป็นผู้ร่วมลงทุนด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณาความเสี่ยงของธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีโดยมีความเสี่ยงที่สำคัญ ดังนี้ 1.ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาของบิทคอยน์ 2.ความเสี่ยงจากการที่ธุรกรรมบนเครือข่ายบทคอยน์มีการเติบโตที่น้อยลงหรือช้ากว่าคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น 3.ความเสี่ยงจาการโจรกรรมทางไซเบอร์ 4.ความเสี่ยงจากการที่ผลการดำเนินงานไม่เป็นตามที่คาดการณ์ 5.ความเสี่ยงจากระบบกฎหมายภาษี และ 6.ความเสี่ยงทางกฎหมายของข้อตกลงจัดสรรผลประโยชน์กับหุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

อย่างไรก็ตาม ในการเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีบริษัทฯ จะทยอยเข้าลงทุน โดยบริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ และเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน การถือหุ้น (Rights Offering) ตามที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 และบริษัทฯ จะพิจารณากู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน

Back to top button