“ฟินันเซีย” อัพเป้า SISB ใหม่ 12.20 บ. คาดกำไร 5 ปีโตเฉลี่ย 27%
“บล.ฟินันเซีย ไซรัส” เชียร์ “ซื้อ” อัพเป้า SISB ใหม่ 12.20 บ. จากเดิม 11.20 บ. ประเมินกำไรปี 64 แตะ 204 ลบ. โต 40% คาดกำไร 5 ปีโตเฉลี่ย 27% สะท้อนแผนขยายสาขาโรงเรียน หนุนจำนวนนักเรียนเพิ่ม
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ก.พ.2565) เกี่ยวกับหุ้นบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ว่า คาดว่าช่วงไตรมาส 4/2564 จะมีกำไรสุทธิราว 20-22 ล้านบาท เป็นระดับต่ำสุดของปี หรือลดลงราว 55% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และ 70% เมื่อเทียบจากปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการศึกษาที่มีผลในช่วง ส.ค-ธ.ค. 2564 ทำให้รายได้ในไตรมาส 4/2564 ได้รับผลกระทบเต็มไตรมาส หากเป็นไปตามคาดจะทำให้กำไรปี 2564 อยู่ที่ 204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.8% เมื่อเทียบจากปีก่อน ปัจจุบันสถานการณ์การเรียนการสอนกลับมาเป็นปกติ โรงเรียนมีการเปิดสอน on site เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะนักเรียนในระดับอนุบาลที่กลับมาเรียนเกือบครบ
นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการศึกษาในไตรมาส 1/2565 กลับสู่ปกติเช่นกัน ทำให้เราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้ตั้งแต่ในไตรมาส 1/2565 โดยคาดกาไรจะกลับไปสู่ระดับ 60-70 ล้านบาท
โดยตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปี 2569 จะเห็น SISB กลับมาอยู่ใน Growth stage อีกครั้งด้วยอัตราการเติบโตของกำไรที่คาดเฉลี่ยต่อปีที่ 27% CAGR ในช่วงปี 2565-2569 จาก 1) การขยายสาขาของโรงเรียน อาทิ ธนบุรี เฟส 2 รองรับนักเรียน 600 คน เปิดการสอนเดือน ต.ค. 2564 การเปิดสาขานนทบุรีเดือน ส.ค. 2566 และ Halve project ปี 2567 ทำให้จานวนนักเรียนเติบโตสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568-2569 และ SISB ยังมีแผนเปิด Halve project เพิ่มเติมในหลายจังหวัดซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ 2) โรงเรียนมีลักษณะเป็น Operation leverage ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ ทำให้การเพิ่มขึ้นของรายได้ส่งผลโดยตรงต่อผลกาไร
ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน บนคาดการณ์จานวนนักเรียน 2,600 คน จาก 2,220 คนในปี 2564 และอัตราค่าธรรมเนียมที่ 4.5 แสนบาทต่อคนต่อปี แต่ปรับประมาณการปี 2567-2569 ขึ้น ตามแผนการเปิดสาขานนทบุรีเต็มปีและ Halve Project แห่งแรก
นอกจากนั้น SISB ได้เปิดเผยถึงสาขาของโรงเรียนแห่งที่ 6 ในรูปแบบ Halve Project (โรงเรียนนานาชาติทางเลือก) ที่จังหวัดระยอง (Project H @Rayong) โดยได้ลงนามซื้อขายที่ดินกับ SPALI ขนาดพื้นที่ 24.5 ไร่ เงินลงทุน 250 ล้านบาท (ใช้กระแสเงินสดภายใน) คาดว่าจะเปิดทาการเรียนการสอนได้ในเดือน ส.ค. 2567 ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย (K-Y12) จานวนนักเรียนที่สามารถรอบรับได้ประมาณ 1,100 ที่นั่ง อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาอยู่ในช่วงระหว่าง 2.20-3.95 แสนบาทต่อคนต่อปี
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการเติบโตใหม่ ปรับเพิ่มประมาณการกาไรปี 2567 ขึ้น 2.5% เป็น 494 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบจากปีก่อน อิงคาดการณ์จานวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 400 คน (0.36% ของ capacity) และอัตราค่าธรรมเนียมเฉลี่ย 3.05 แสนบาทต่อคนต่อปี ทั้งนี้รายได้จากโครงการนี้จะมีผลเต็มปีในปี 2568 โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 ที่ 575 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน ทั้งนี้จากการปรับประมาณการขึ้น ทำให้เพิ่มราคาเป้าหมายปี 2565 เป็น 12.20 บาท จากเดิม 11.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”