“เอสซีจี” เข้าพบ “นายกเวียดนาม” หารือขยายโครงการ “ลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ 2”
“เอสซีจี” เข้าพบ “นายกรัฐมนตรีเวียดนาม” หารือขยายโครงการ "ลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ 2" ที่จังหวัดบ่าเหรี่ยะ–หวุงเต่า ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รับการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เข้าพบนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือการขยายโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ ระยะที่ 2 (Long Son Petrochemicals 2 – LSP2) ที่จังหวัดบ่าเหรี่ยะ–หวุงเต่า ทางตอนใต้ของเวียดนาม ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศเวียดนาม รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน
โดยนายรุ่งโรจน์ กล่าวหลังจากเข้าพบ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้โอกาสเข้าพบในครั้งนี้ เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาโครงการใหม่ ประกอบด้วย การขยายโครงการ LSP ระยะที่ 2 หรือ LSP2 และโครงการขยายกำลังการผลิต (debottlenecking) ที่ LSP
“สำหรับโครงการ LSP2 เอสซีจีมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการดำเนินงาน และเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products and Services – HVA) เช่น เอสซีจี กรีน พอลิเมอร์ (SCG GREEN POLYMERTM) หรือนวัตกรรมพอลิเมอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงการ LSP2 ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโครงการ LSP จึงมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในการขยายโรงงาน ทั้งนี้ จะดำเนินการยื่นเรื่องขออนุญาตอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป” นายรุ่งโรจน์ กล่าว
นอกจากนี้เอสซีจีได้เสนอความคืบหน้าโครงการ LSP ที่มีการดำเนินงานอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมระดับโลก โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์บางส่วนภายในปี 2565 และดำเนินการเต็มรูปแบบในต้นปี 2566 ทั้งนี้ โครงการ LSP มีกำลังการผลิตโอเลฟินส์อยู่ที่ 1.35 ล้านตันต่อปี และโพลิโอเลฟินส์อยู่ที่ 1.4 ล้านตันต่อปี