โบรกฯ เชียร์ซื้อ DCC คาดกำไรปี 65 ทะลัก 1.8 พันลบ. เล็งยอดขายกระเบื้องพุ่ง-คุมต้นทุนดี
“ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ DCC เป้า 3.60 บ. คาดกำไรปี 65 ทะลัก 1.8 พันลบ. เล็งยอดขายกระเบื้องพุ่ง-คุมต้นทุนดี ขณะที่แนวโน้มกำไร Q1 คาดอยู่ในเกณฑ์ดีต่อจาก High Season ของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น อย่างไรก็ตามคาดปี 65 Dividend Yield สูง 6.6%
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.พ.2565) ว่า บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2564 กำไรสุทธิ 388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามคาด ซึ่งผลักดันด้วยยอดขายที่ฟื้นตัวเป็น 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
เนื่องด้วยช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 ถือเป็นฤดูฝนเต็มตัวและเกิดน้ำท่วมในต่างจังหวัด รวมถึงความต้องการใช้กระเบื้องที่เร่งขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการก่อสร้างกลับมาดำเนินการต่อ รวมถึงหนุนจากการปรับขึ้นราคาขาย 3-5 บาทต่อตร.ม. เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นส่วนช่วยให้สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับที่ดี 43% เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 44.2% และไตรมาส 4 ปี 2563 อยู่ที่ 41.8%
โดยจบปี 2564 กำไรสุทธิเติบโต 7% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทำ New High อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ถึงแม้ยอดขายทำได้เพียงทรงตัวที่ 8.4 พันล้านบาท ลดลง 1% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ผลบวกของการปรับขึ้นราคาขาย พร้อมเน้นขายกระเบื้องขนาดใหญ่ที่มาร์จิ้นดี สามารถชดเชยต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นได้ทั้งหมด ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเร่งขึ้นเป็น 43.3% จากในปี 2563 อยู่ที่ 41.5%
นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยประเมินภาพรวมปี 2565 โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อความต้องการใช้กระเบื้องที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ, สถานการณ์โควิด-19 คลายตัว หนุนการจับจ่ายใช้สอยวัสดุก่อสร้างและกิจกรรมก่อสร้างราบรื่นขึ้น ทำให้คาดว่ายอดขายจะเติบโต 4% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ต้นทุนก๊าซและวัตถุดิบที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าปรับขึ้นราคาขายที่มีผลเต็มปี และมีโอกาสทยอยขยับขึ้นอีกในปีนี้ รวมถึง Product Mix ของสินค้ามาร์จิ้นสูงอย่างกระเบื้องขนาดใหญ่ 60×120 และ 80×80 จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสามารถทรงตัวได้จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้คงประมาณการกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยแนวโน้มกำไรไตรมาส 1 ปี 2565 คาดอยู่ในเกณฑ์ดีต่อ จาก High Season ของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น
ทั้งนี้คงราคาเหมาะสม 3.60 บาท อิง PER 18 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” จากสัญญาณการฟื้นตัวดีของอุปสงค์กระเบื้อง รวมถึงกลยุทธ์ที่ดีและการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกพิสูจน์ด้วยผลประกอบการที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2564 และโตต่อเนื่องในปี 2565 อีกทั้งให้ผลตอบแทนปันผลเด่นคาดทั้งปี 2565 อัตราเงินปันผลตอบแทน (Yield) สูง 6.6% บน Payout 100% ซึ่งจ่ายไตรมาสละครั้ง โดยงวดไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลใกล้เคียงคาดอยู่ที่ 0.045 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 1.5% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 เม.ย. 2565 และจ่ายปันผลวันที่ 28 เม.ย. 2565