JP จับมือ TVD ขยายตลาดเสริมอาหาร ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โตเกือบเท่าตัว

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2565 โตเกือบเท่าตัวจากปีก่อน ตามการเติบโตของทุกธุรกิจ นำโดย ธุรกิจผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัท (Own Brand) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นสินค้าเพิ่มมูลค่าที่ให้อัตรากำไรค่อนข้างสูง

ขณะที่บริษัทจะเพิ่มสินค้าอีก 2 ชนิด คือ Black SeasameOil และ Rice Bran Oil ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามาในส่วนของยาน้ำ อาหารเสริม และยาแผนปัจจุบัน เพื่อจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ปลายปีนี้ โดยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสนับสนุน นอกจากนั้น ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสนับสนุนต่อเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัท (Own Brand) อยู่ที่ 50% รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) อยู่ที่ 50%

อย่างไรก็ตาม แนวทางเป้าหมายรายได้ในปีนี้ ยังไม่นับรวมสินค้าจากผลิตภัณฑ์กัญชา และกระท่อม เนื่องจากยังไม่สามารถกำหนดการวางจำหน่ายได้ชัดเจน ถึงแม้เบื้องต้นจะคาดว่าโรงงานสกัดใกล้เสร็จในไตรมาส 3/2565 แต่มีขั้นตอนการยื่นขอใบอนุญาตเพิ่มเติม เช่น ใบอนุญาตครอบครองยาเสพติด และใบอนุญาตผลิตเพื่อจำหน่ายยา รวมไปถึงต้องขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์

นายสิทธิชัย กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนในปีนี้ราว 160 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิต และงบการตลาด 200 ล้านบาท โดยหวังว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อเป้าหมายการเติบโต โดยล่าสุด JP เตรียมทำการตลาดร่วมกับ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ด้วยงบลงทุนราว 50 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติผ่านช่องทาง ทีวี ช้อปปิ้ง และช่องทางออนไลน์ เจาะตลาด Direct to Customer นำร่องด้วยผลิตภัณฑ์ Black Sesame Oil,  Rice Bran Oil และ Super food โปรตีนจากพืช เพื่อเจาะตลาดคนรักสุขภาพ Aging society

ทั้งนี้ ผลการสำรวจทั่วโลกพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระตุ้นยอดขายสินค้าเสริมอาหารเพื่อสุขภาพให้มีความเติบโต 11% ในปี 64 และมองแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 65 อีก 3.8% ขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยมีการเติบโตก้าวกระโดด คาดมูลค่าตลาดโตแตะ 1 หมื่นล้านล้านในปี 68 โดยช่วยกระตุ้นยอดขาย JP และ TVD เติบโตตามเทรนด์ของสินค้าเพื่อสุขภาพ

นายสิทธิชัย กล่าวต่อว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ JP มั่นใจจะช่วยสนับสนุนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ให้เติบโตอย่างโดดเด่น เพราะทำให้เข้าถึงลูกค้า D2C (Direct to Consumer) ได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก TVD เป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และทีวี ช้อปปิ้ง ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ รวมถึงมีชื่อเสียงได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าทั่วประเทศ จึงคาดว่าในปี 65 ยอดขายกลุ่มลูกค้า D2C (Direct to Consumer) ของ JP จะเติบโต  200%

โดย JP คาดว่าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในไทยจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ถือเป็นปัจจัยบวกกับ JP ทั้งในส่วนของธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายภายใต้ Own Brand ดังนั้นในปีนี้ JP จึงได้เน้นกลยุทธ์เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยลงนาม TVD ในการเป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์ “สุภาพโอสถ” ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นการต่อยอดงานวิจัยจากสมุนไพรไทย และยกระดับพืชเกษตรของไทยสู่การเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับสากล

“ความร่วมมือในครั้งนี้จะนำร่องจัดจำหน่าย สินค้า 2 ชนิด ประกอบด้วย Black Sesame Oil + Rice Bran Oil ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีสรรพคุณที่ตอบโจทย์ผู้คนในยุคปัจจุบันที่สนใจในการดูแลสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยไขมันดี (HDL) โอเมก้า 3,6,9 และวิตามิน บี หลากหลายชนิด เหมาะกับตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีความกังวลเรื่องปวดข้อ ปวดเข่า รวมถึงความกังวลเรื่องไขมันและน้ำตาลสูง นอกจากนี้ ยังมีวอล์ฟเฟีย ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช (Plant Base Protein) ที่ให้พลังงานสูงเปรียบเสมือนโปรตีนจากธรรมชาติ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของไฟเบอร์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ที่ต้องการโปรตีนจากพืชเป็นการทดแทน” นายสิทธิชัย กล่าว

ด้านนายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD  เปิดเผยว่า เทรนด์การเติบโตของสินค้าเพื่อสุขภาพที่มาแรงในช่วง 2-3 ปีนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปซื้อสินค้าที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น และสินค้าของ JP จะช่วยสนับสนุนยอดขายของ TVD เช่นกัน ขณะที่ TVD เป็นผู้นำตลาดทีวี ช้อปปิ้ง มีช่องทางการจำหน่ายผ่านทีวีช่องทีวีดิจิตอลและแซทเทิลไลท์  และปัจจุบันมีช่องทางการจำหน่ายออนไลน์อย่างครอบคลุม  โดยเฉพาะช่องทาง Social Commerce เช่น TikTok ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น รวมถึงช่องทาง www.tvdirect.tv และ แอปพลิเคชั่น TVD ทำให้ TVD เข้าถึงลูกค้าทุกช่องทาง สามารถสร้างยอดขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง