โบรกฯ เชียร์ซื้อ OTO เป้า 16.20–21 บ. จับตากำไรปี 66-69 โต 75% ขยายธุรกิจ Tech Company

“บล.บัวหลวง” เชียร์ซื้อ OTO เป้า 16.20–21 บ. จับตากำไรปี 66 โต 75% ขยายธุรกิจ Tech Company เต็มรูปแบบ เตรียมเปิดตัว 2 แพลตฟอร์มใหม่ E-Sport-ทางการแพทย์ หวังสร้างกำไรโตกระโดด


บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ บล.บัวหลวง เผยแพร่บทวิเคราะห์เกี่ยวกับบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จํากัด (มหาชน) หรือ OTO โดยระบุว่าได้ให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ 16.20 – 21.00 บาท  ประเมินว่านอกเหนือจากธุรกิจบริการ Call Center ที่มั่นคง OTO ได้ขยายฐานรายได้จากการลงทุนเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโลกใหม่ เพื่อจะสร้างกำไรเติบโตก้าวกระโดดในอีกหลายปีข้างหน้าทั้ง Blockchain Technology, E-sport และ Platform ด้านสุขภาพ เปิดโอกาสสร้างรายได้จากลูกค้าทั่วโลก

สำหรับ OTO วางเสาหลักของธุรกิจ ที่จะมาผลักดันแนวโน้มกำไรและราคาหุ้น โดยธุรกิจที่ 1 คือธุรกิจ Call center ที่สร้างพื้นฐานกำไรไว้อย่างมั่นคง ธุรกิจที่ 2 คือ Blockchain Technology แบ่งเป็น 2.1 มีการสร้างรายได้บนการรับ, แจ้ง, จัดเก็บ ข้อมูลอาชญกรรมไชเบอร์ โดยจะมีค่าใช้จ่ายขอตรวจสอบต่อครั้งประมาณ $3 (หรือราว 100 บาท) คาดเปิดบริการช่วงไตรมาส 2/2565 ถึงไตรมาส 3/2565 และ 2.2 Platform E-Sport ซึ่งในส่วนนี้จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กิจการผ่าน Crypto Currency, NFT ในอนาคต ส่วนธุรกิจที่ 3 คือ Platform ทางการแพทย์ ที่ตอบโจทย์ทั้ง Tele-Pharmacy และ Tele-Medicine

ดังนั้นจึงประเมินมูลค่าหุ้น OTO สำหรับปี 2566 ที่ 16.20 – 21.00 บาท โดยได้รวมมูลค่าของธุรกิจใหม่ที่บริษัทเข้าลงทุนไปด้วย เพื่อสะท้อนความคาดหวังที่แท้จริงของตลาด และมูลค่าที่ซ่อนอยู่ในอนาคต โดยได้ทำ Sensitivity Analysis สำหรับธุรกิจใหม่ กรณีที่มีความอนุรักษ์นิยมเป็นไปได้มากสุดจนถึงกรณีดีสุด  ทั้งนี้ให้ส่วนลด-พลาดเป้าหมายเริ่มตั้งแต่ 0%-20% ทั้งนี้ Tactical target price ข้างต้นเทียบการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 75% (CAGR ปี 2566-2569) อิง PEG เทียบ im (รวมธุรกิจใหม่) ปี 2566 เพียง 0.5-0.7 เท่า plied EPS

ด้านนายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OTO กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนธุรกิจที่จะก้าวเข้าสู่ Tech Company เต็มรูปแบบ หลังจากเปิดตัว Social Bureau ซึ่ง OTO ถือหุ้น 20% เป็นแพลตฟอร์มการตรวจสอบเครดิตบนโลกไซ ซึ่งบริษัทจะมีรายได้จากค่าบริการตรวจสอบเครดิตดังกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวอีก 2 แพลตฟอร์ม ประกอบด้วย Platform E-Sport ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก โดยในเฟสแรกคาดว่าสามารถสร้างรายได้จาก Sponsorship ในการจัดแข่งขันต่างๆ  และเตรียมเปิดตัว Platform ทางการแพทย์ ต่อยอด Tele Medicine โดยให้คำปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ (Tele Pharmacy) ซึ่งเจาะกลุ่มเภสัชกรไม่ต้องการลงทุนเปิดร้านขายยาเอง ซึ่งบริษัทจะมีรายได้จากค่าบริการต่างๆนี้

“บริษัทฯ มั่นใจว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีส่วนสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น และการขยายธุรกิจเข้าสู่ Tech Company ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในแล้ว ในฐานะผู้นำตลาด Contact Center และ Call Center ของเมืองไทย ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายคณาวุฒิ กล่าวในที่สุด

Back to top button