PSH ลุยเปิด 31 โครงการ 1.63 หมื่นลบ. ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3.1 หมื่นลบ.

PSH ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3.1 หมื่นลบ. ลุยเปิด 31 โครงการ 1.63 หมื่นลบ. เน้นกลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อ ลุยตั้ง CVC วางงบ 3 ปี 3.5 พันลบ. ขยายลงทุน “PropTech-Health Tech”


นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ PSH ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป จะเน้นการพัฒนาด้านกลยุทธ์การขายและการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ต้องการสร้างความแตกต่าง หรือการใช้กลยุทธ์ Unique selling point โดยจะสร้างความโดดเด่นและมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด และทำให้พฤกษายังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับในปีนี้บริษัทยังคงปรับพอร์ต ด้วยการมุ่งเน้นลดสต็อก พร้อมกับการเปิดโครงการใหม่เพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้า Real demand ที่เป็นบ้านระดับบนมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นที่ดี ทำให้บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 30% ได้ต่อเนื่อง พร้อมกับการนำที่ดินบริษัทมีอยู่ 150 แปลง ทยอยนำมาพัฒนาเป็นโครงการใหม่เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่กลับมาเติบโต

ขณะเดียวกันบริษัทจะเน้นการสร้าง Synergy ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงพยาบาลวิมุต ในการเปิดให้บริการศูนย์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัยในโครงการของพฤกษา เพื่อเป็นการเสริมงานด้านบริการให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นบริการใหม่ที่พฤกษาพัฒนาขึ้นมา เพื่อทำให้ลูกบ้านของพฤกษามีความสะดวกในเรื่องการดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วย และเป็นการสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทได้เพิ่มเติม

นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดตั้ง Corporate Venture Fund (CVC) โดยวางงบลงทุนในช่วง 3 ปี อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เพื่อมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเน้นไปที่การลงทุนด้านเทคโนโลยีตามเทรนด์โลกอนาคตในรูปแบบต่างๆ ทั้งการลงทุน การร่วมเป็นพันธมิตร และการทำ Outside-in Innovation โดยมุ่งเน้นใน 2 ด้านที่จะมาสนับสนุนธุรกิจหลัก ได้แก่ PropTech เช่น โซลูชั่นที่มุ่งส่งเสริมการสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า การขายและการตลาดดิจิทัล Smart Home IOT Senior Living หรือ Nursing Home เป็นต้น และ Health Tech ซึ่งต้องการเน้นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานธุรกิจสุขภาพ (Healthcare Supply Chain) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เป็นต้น

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจ Clinical Laboratories, Digital Heath และ Genomic Labs ประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งยังมีการจัด Bootcamp เพื่อคัดเลือกทีม External Venture Building จากทีมที่สมัครเข้ามามากกว่า 100 ทีม และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลงทุนสตาร์ทอัพในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนในเดือนมี.ค.นี้

“ทั้งหมดนี้จะเป็นการต่อห่วงโซ่ธุรกิจของพฤกษา โฮลดิ้ง ให้แข็งแกร่งขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่างองค์กร และ Innovation Technology ของบริษัท Startup ได้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ และนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาต่อยอดกับธุรกิจหลักของพฤกษา โฮลดิ้ง” นายอุเทน กล่าว

ด้านนายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS บริษัทในเครือ PSH เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 2565 อยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 23% จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 2.54 หมื่นล้านบาท โดยที่บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 ไว้จำนวน 31 โครงการ มูลค่ารวม 1.63 หมื่นล้านบาท โดยที่ยังเน้นการเปิดโครงการแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากยังเป็นตลาดที่คนยังมีความสนใจเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยค่อนข้างมาก โดยจะมีการเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ 22 โครงการ และบ้านเดี่ยว 6 โครงการ

ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2565 จะเปิดเพียง 3 โครงการการเปิดโครงการแนวราบในปีนี้จะเน้นไปที่กลุ่มระดับบนมากขึ้น โดยทาวน์เฮาส์ที่จะมาเปิดมากขึ้นเป็นแบรนด์ PATIO ระดับราคา 4-5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่เริ่มมีรายได้ในระดับที่สูง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการทาวน์เฮาส์ที่เดินทางสะดวกและสามารถนำมาทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ และบ้านเดี่ยวจะเปิดแบรนด์ The Palm ระดับราคา 10 ล้านบาท ออกมามากขึ้น โดยตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ถือว่ายังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงยังมีการซื้อบ้านเดี่ยวต่อเนื่อง

ส่วนคอนโดมิเนียมในปีนี้ 3 โครงการ จะอยู่ในระดับราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย 2-4 ล้านบาท และเป็นการพัฒนาโครงการที่เป็นเฟสขยายของโครงการเดิมที่ขายใกล้หมดแล้วจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Plum รามอินทรา เฟส 2 โครงการ Privacy เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ เฟส 2 และอีก 1 โครงการ บนทำเลบริษัทมีที่ดินอยู่แล้วและเลื่อนการเปิดมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ โครงการ Plum บางพลัด

ด้านยอดโอนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท ตั้งไว้ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 18% จากปีก่อนที่มี 2.8 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้จะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่เตรียมโอนเข้ามาอีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 2.9 พันล้านบาท ซึ่งจะเข้ามารองรับรายได้ในปีนี้ พร้อมกับการเดินหน้าทยอยขายโครงการพร้อมที่อยู่ระหว่างการขาย ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสต็อกอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท เน้นกลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่น พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการซื้อและดึงดูดลูกค้า

ส่วนมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนเข้ามาในปีนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น Backlog จากโครงการแนวราบ 3 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1.1 หมื่นล้านบาท และงบซื้อที่ดินของบริษัทในปีนี้ตั้งอยู่ที่ 3-5 พันล้านบาท

ด้าน นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทในเครือ PSH กล่าวว่า รายได้ของธุรกิจเฮลท์แคร์ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท โดยรายได้ยังคงมาจากการให้บริการของโรงพยาบาลวิมุตที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนพ.ค.2564 โดยที่รายได้ยอมรับว่ายังมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่บ้างในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลวิมุติเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้ามาให้กับโรงพยาบาลได้ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19

ขณะที่ในปี 2565 ธุรกิจเฮลท์แคร์ของบริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมด้าน Digital Healthtech เช่น แอปพลิเคชั่น Telemedicine และการบริการที่ตอบรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ล่าสุดได้ออกโปรแกรม Total Senior Solution เพื่อดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน โดยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โดยการร่วมกับพฤกษาปรับฟังก์ชั่นบ้านให้เหมาะกับผู้สูงวัย การออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น การติดตั้งราวจับภายในบ้าน ที่นั่งอาบน้ำ พื้นกันกระแทก โดยเริ่มทำแล้วในโครงการของพฤกษา

สำหรับความคืบหน้าโครงการ ViMUT Health Center ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง ได้เริ่มดำเนินการแห่งแรกแล้ว ที่โครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน จะเปิดให้บริการในเดือนส.ค. 65 และยังมีแผนที่พัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในโครงการคอนโดมิเนียมของพฤกษาทำเลในเมืองที่มีศักยภาพในอนาคต

แท็กซ์/// 

Back to top button