ASIAN ปลื้ม “ทริสเรทติ้ง” อัพเครดิตสู่ระดับ “BBB” ตอกย้ำผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง
ASIAN ปลื้ม “ทริสเรทติ้ง” ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร เป็น “BBB” แนวโน้ม “Stable” สะท้อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง
นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ผู้ประกอบธุรกิจแปรรูปสัตว์น้ำแช่แข็ง จำหน่ายและส่งออก ทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท และผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า และผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง เปิดเผยว่า นับเป็นข่าวดีของบริษัทฯ ที่ล่าสุดบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ ASIAN เป็นระดับ “BBB” จากเดิมที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”
ทั้งนี้การเพิ่มอันดับเครดิตดังกล่าว สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของสัดส่วนผลิตภัณฑ์ของบริษัทจากสินค้าโภคภัณฑ์มาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง การฟื้นตัวในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลแช่แข็งอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางทั่วโลก การปรับปรุงประสิทธิภาพและการควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัทที่ดีขึ้น
นอกจากนี้อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทในการเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้แปรรูปอาหารทะเลขนาดกลางในประเทศไทย รวมถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และการมีตลาดที่ครอบคลุมหลายพื้นที่
โดยทริสเรทติ้ง คาดว่า ASIAN จะยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นับจากนี้กลยุทธ์ที่บริษัทฯ ใช้ในการรักษาอัตรากำไร คือการมุ่งขยายผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสัตว์แบบเปียก และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ทริสเรทติ้งคาดหวังว่า รายได้ของบริษัทฯ ที่มาจากธุรกิจอาหารสัตว์จะเพิ่มขึ้น ตลอดจนกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการลดต้นทุนรวมทั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงจะช่วยรักษาผลการดำเนินงานของบริษัทให้เป็นที่น่าพอใจในระยะ 2- 3 ปีข้างหน้าได้
ทั้งนี้ในปี 2565 ASIAN วางแผนจะขยายกำลังการผลิตต่อปีให้เป็น 42,000 ตัน จาก 38,000 ตัน เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า วางกลยุทธ์ที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่าปีละ 200 ชิ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าในหลากหลายภูมิภาค พร้อมทั้งมีการสร้างแบรนด์ของตนเอง และเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าอาหารสัตว์แบบเปียกและขยายไปยังอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มบริษัทมีความพยายามที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มในหมวดอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมทั้งขยายไปในตลาดโลกมากขึ้น
อย่างไรก็ดีบริษัทฯ วางแผนจะนำ บริษัท เอเชี่ยนอะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (AAI) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 บริษัทฯ มีจุดมุ่งหมายที่จะเสนอขายหุ้นสามัญออกใหม่ของ AAI ผ่านวิธีการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมทั้งมีการจัดสรรหุ้นออกใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทด้วย ทั้งนี้ คาดว่า AAI และบริษัทฯ จะได้รับรายได้สุทธิจากการระดมทุนครั้งนี้จำนวนประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะนำรายได้นี้ไปใช้ในการจ่ายชำระหนี้ระยะยาวที่เหลือของบริษัทฯ รวมทั้งนำไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตของกิจการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ด้วย