โบรกคัด 14 หุ้น “เก็บเข้าพอร์ต” ชู WICE-CHG-SYNEX-LEO-TIPH-MAKRO ช่วงตลาดผันผวน
โบรกคัด 14 หุ้น “เก็บเข้าพอร์ต” ชู WICE-CHG-SYNEX- LEO-TIPH-MAKRO รับอานิสงส์บวกเฉพาะตัว หลังตลาดผันผวน อีกทั้งยูเครน-รัสเซีย ยังตึงเครียดอยู่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ในวันที่ 23 ก.พ. 2565 โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย อาจผันผวนสูง รอความชัดเจนของสถานการณ์ยูเครน พร้อมกับบริษัทต่างๆทยอยส่งงบไตรมาส 4/2564 ออกมา
อีกทั้งยูเครน-รัสเซีย ยังตึงเครียดอยู่ต่อไป ชาติต่างๆ เตรียมประกาศมาตราการ Sanction ขณะที่รัสเซียไฟเขียวใช้กำลังทางทหาร ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยมองว่า แม้จะเห็นการดีดตัวของ Futures ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เช้านี้ แต่ด้วยที่ว่าแนวโน้มของเรื่องนี้ยังไม่สามารถที่จะฟังธงได้ว่าจะไปทางใด ความเสี่ยงของตลาด จึงยังไม่ได้ลดลง เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ยังแนะนำให้ถือเงินสดไว้ก่อน
ขณะเดียวกันวันนี้ ศบค. จะมีประชุมเพื่อพิจารณามาตรการควบคุม Covid-19 หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้ รวม ATK พุ่งขึ้นไปถึง +38,122 ราย และ ครม. ยืนยันใช้ UCEP COVID ต่อไป หุ้นโรงพยาบาล ได้ประโยชน์มากที่สุดได้แก่ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH และ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG
ส่วนครม.เห็นชอบการปรับลดภาษีสรรพสามิตรถ EV และหนุนให้ไทยเป็นศูนย์การผลิต มองว่าหุ้นกลุ่ม EV และผู้ผลิตชิ้นส่วน EV จะได้ประโยชน์ หุ้น Top pick ได้แก่บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX
อย่างไรก็ตามการลงทุนในวันนี้ ต้องติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ในระหว่างประกอบไปด้วย เพราะมีผลทั้งบวก-ลบ ต่อตลาด ทั้งในเรืองการ Sanction (ถ้าไม่เข้มข้นมาก ตลาดจะไม่ลบมาก) และการใช้กำลังทางทหาร (คาดไม่ใช่วันนี้)
ทั้งนี้หากไม่มีข่าวลบที่รุนแรงเพิ่มขึ้น ตลาดอาจผ่านจุดต่ำสุด ที่ 1673 จุดไปแล้ว จากนี้รอเวลาเข้าซื้อ โดยหุ้นที่ราคาลงมาแรงๆ ช่วงก่อนหน้านี้ ที่เราสนใจ ได้แก่ KCE, HANA, TIPH, SYNEX, JWD, WICE, JMART
พอร์ตหุ้นวันนี้ ทางฝ่ายวิจัยเพิ่มหุ้น WICE เข้ามา พอร์ตหุ้นประกอบด้วย WICE (15%), CHG (15%), SYNEX (15%), LEO (10%), TIPH (10%), MAKRO (10%)
ด้านหุ้นเด่น WICE (เป้าเชิงกลยุทธ์ 20.00 บาท โดยเก็งงบไตรมาส 4 ปี 2564 โดยคาดกำไรที่ 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น184% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน หนุนด้วยค่าระวางและปริมาณการขนส่งที่ทรงตัวในระดับสูง
ส่วนบ. ลูก ETL เตรียมเข้าตลาดปลายปี พร้อมเติบโตในธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน เตรียมขยายตู้คอนเทนเนอร์ (ล่าสุดเพิ่มมา 500 ตู้) ด้านธุรกิจขนส่งทางรางจะเริ่มรับรู้รายได้ในปีนี้
พร้อมกับประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 682 ล้านบาท และ 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ