MEGA กำไรปี 64 โตตามคาด 1.9 พันลบ. รับรายได้พุ่ง แจกปันผล 0.86 บ. XD 8 มี.ค.นี้

บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2564 ดังนี้

โดยปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม มูลค่า 14,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.30 จากปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM  มีมูลค่า 6,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.20 จากปีก่อน หลังการปรับปรุงการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์ (จากผลของยอดขายที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นในปี 2564 โดยไม่มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิ) การเติบโตของรายได้ในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 15 จากปีก่อน ซึ่งทุกภูมิภาครายงานการเติบโตที่ดี อีกทั้งรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MaxxcareTM มีมูลค่า 6,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวม อยู่ที่ร้อยละ 41.8 ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ร้อยละ 39.6 โดยหลักเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM จากส่วนผสมของรายได้ที่ดี และอัตรากำไรขั้นต้นตามส่วนงานที่ปรับตัวดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นของรายได้ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM ยังคงแข็งแกร่งขึ้น อยู่ที่ร้อยละ 66.20 ในปี 2564

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MaxxcareTM อยู่ที่ร้อยละ 17.50 ในปี 2564 และอัตรากำไรขั้นต้นสุทธิ (EBITDA/กำไรขั้นต้น) ของธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MaxxcareTM อยู่ที่ร้อยละ 48 ในปี 2564 เมื่อเทียบกับร้อยละ 43.60 ในปีก่อน

สำหรับกำไรสุทธิตามรายงานในปี 2564 อยู่ที่ 1,941 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 39.8 จากปีก่อน โดยการเติบโตขึ้นของกำไรสุทธิในปี 2564 หลักๆเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564  และกำไรสะสมเป็นเงินสดในอัตรา 0.86 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 มี.ค.2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผล 22 เม.ย.2565

ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ก.พ. 2565) โดยประเมินกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 1,963 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ บนสมมติฐาน (1) รายได้ MWC ขยายตัว 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน, (2) รายได้ MC ขยายตัวต่อเนื่อง 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จาก principal ที่เพิ่มขึ้น และ (3) GPM ขยายตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับปี 2565 กำไรสุทธิที่ 2,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จาก (1) รายได้รวมที่เติบโต เพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ MWC ขยายตัว 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน, รายได้ MC เติบโตต่อเนื่อง 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ (2) GPM ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากสัดส่วน MC ที่มี margin ต่ำขยายตัว