ASAP อ่วม! งบปี 64 ขาดทุนเพิ่ม 2 เท่าตัว เซ่นพิษ “โควิด” กระทบรายได้เช่ารถยนต์
ASAP งดจ่ายปันผล หลังงบปี 64 ขาดทุนเพิ่ม 2 เท่าตัวมาที่ 276 ลบ. เซ่นพิษ “โควิด” กระทบรายได้ค่าเช่ารถยนต์
บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 4,203.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 715.99 ล้านบาท หรือร้อยละ 21 จากจำนวน 3,487.92 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายรถยนต์จำนวน 987.95 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ขายเพิ่มขึ้นจาก 1,971 คัน ในปี 2563 เป็น 4,159 คัน ในปี 2564
ขณะที่รายได้จากการให้เช่ารถยนต์ และอื่นลดลงจำนวนรวม 271.96 ล้านบาท มาจากการลดลงของรายได้เช่ารถยนต์ระยะยาวเนื่องจากจำนวนรถใน Fleet ที่ลดลง
ประกอบกับรายได้ค่าเช่ารถยนต์ระยะสั้นที่ลดลงเนื่องจากผลกระทบของการระบาดของโควิค-19 ต้นทุนขายและบริการมีจำนวน 4,022.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 902.85 ล้านบาท หรือร้อยละ 29 จากจำนวน 3,120.03 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขายรถยนต์จำนวน 1,084.34 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนรถยนต์ขายในปี 2564 ที่เพิ่มขึ้นตามที่ได้กล่าวข้างต้น
ขณะที่ต้นทุนบริการให้เช่ารถยนต์และอื่นๆลดลงจำนวน 181.49 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงของค่าเสื่อมราคารถยนต์ให้เช่า ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ ค่าประกันภัยและค่าจดทะเบียนรถยนต์ เนื่องจากจำนวนรถยนต์ให้เช่าเฉลี่ยในปี 2564 น้อยกว่าปี 2563 รายได้อื่นมีจำนวน 38.37 ล้านบาท ลดลงจำนวน 30.49 ล้านบาท หรือร้อยละ 44 จากจำนวน 68.86 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน
ด้านค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น มีจำนวนรวม 131.14 ล้านบาท ลดลง 8.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 จากจำนวน 139.51 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการขานและบริหารที่ลดลง 17.24 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนวินัยในการควบคุมค่าใช้จ่าย
ขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น 8.87 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงินมีจำนวน 364.93 ล้านบาท ลดลง 22.87 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 จากจำนวน 387.80 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทชะลอการเพิ่มจำนวนรถยนต์ให้เช่า
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิสาหรับปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 277.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.94 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 206 จากขาดทุนสุทธิ จำนวน 90.55 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากการขายรถยนต์เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดรถยนต์มือสอง การลดลงของรายได้เช่ารถยนต์ระยะยาวเนื่องจากจำนวนรถใน Fleet ที่ลดลง รายได้ค่าเช่ารถยนต์ระยะสั้นที่ลดลงเนื่องจากผลกระทบของการระบาดของโควิค-19 ประกอบกับมีผลกระทบจากการปรับมูลค่าซากรถยนต์ในไตรมาส 4 /64 จำนวน 54.5 ล้านบาท