JAS รายได้ปี 64 ขยายตัว หนุน “อิบิทด้า” โตแตะ 1.3 หมื่นลบ.
JAS รายงานกำไรปี 64 ขาดทุนลดลง 52% เหลือ 1.5 พันลบ. ขณะที่รายได้เติบโตมาที่ระดับ 2 หมื่นลบ. หนุน “อิบิทด้า” ทั้งปีโต 12% มาที่ระดับ 1.36 หมื่นลบ.
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS รายงานผลประกอบการงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
สำหรับผลการดําเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 1,501 ล้านบาท ขาดทุนลดลงร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3,134 ล้านบาท โดย EBITDA ในปี 2564 อยู่ที่ 13,648 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,481 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับ EBITDA ปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 12,167 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดําเนินงานไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกําไรสุทธิ 45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อนและไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ซึ่งขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 935 ล้านบาท และ 370 ล้านบาท ตามลำดับ โดย EBITDA ในไตรมาส 4 ปี 2564 อยู่ที่ 3,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 773 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 317 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานในปี 2564 อยู่ที่ 20,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,141 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 2563 รายได้รวมดังกล่าวประกอบด้วย
1.รายได้จากส่วนงานให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและอินเทอร์เน็ตทีวีจำนวน 18,033 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 446 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการ 3BB ที่เพิ่มขึ้น ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 3.65 ล้านราย เมื่อหักจำนวนผู้ใช้บริการภาคองค์กร ลูกค้า WIFI กลุ่ม Barter กลุ่มที่ใช้ในกิจการภายใน กลุ่มบริการเสริมอื่น และกลุ่มลูกค้าที่มีหนี้ค้างออก เป็นต้น
โดยจะมียอดผู้ใช้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปในส่วนที่เป็น Fixed Broadband และที่สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 2.43 ล้านราย โดยมีรายไเฉลี่ยต่อราย (ARPU) ในปี 2564 อยู่ที่ 598 บาทต่อเดือน
ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) ใน ไตรมาส 4 ปี 2564 อยู่ที่ 597 บาทต่อเดือน
2.รายได้จากส่วนงานจัดหา ออกแบบ และวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม จำนวน 1,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้จากการให้บริการวงจรเช่าในประเทศและ ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ในส่วนของธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมานั้น ในปี 2564 รับรู้รายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์จำนวนประมาณ 9.6 เหรียญบิทคอยน์ คิดเป็นเงิน 16.5 ล้านบาท
3.รายได้ส่วนงานอื่นและรายได้อื่นจำนวน 1,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 477 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการบันทึกรายได้จากการกลับรายการหนี้สินของ TTTBB ในไตรมาส 4 ปี 2564 จำนวน 609 ล้านบาท และกําไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนสุทธิจำนวน 22 ล้านบาท จากเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของบริษัท พรีเมียม แอสเซท จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 4 ปี 2564
ด้าน นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทจัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ได้ทำการศึกษาและทดลองการขุดบิตคอยน์ หาแหล่งเงินทุน ทำสัญญากับ Bitmain ที่เป็นเจ้าหลักในการผลิตเครื่องขุดบิทคอยน์ และขอความสนับสนุนเรื่องการใช้ไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าเต็มกำลังในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์
รวมถึงการหาธุรกิจต่อยอดในเรื่อง crypto business ส่วนธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป หลายบริษัทฯมีการทำงานลักษณะ WFH อย่างจริงจัง อีกทั้ง lifestyle ในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดการ consume bandwidth เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันบางบ้านมีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นบริษัทจึงได้จัดแพ็กเกจที่หลากหลายพร้อมบริการเสริมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงใจมากที่สุด
นอกจากนี้ การให้บริการที่ความเร็วมากกว่า 1000 Mbps นั้นคาดว่าจะพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 2/2565 ด้านการให้บริการลูกค้าองค์กร บริษัทจะเน้นการหาพันธมิตรและนำเสนอ solution โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนลูกค้าองค์กรจากเดิมไม่ต่ำกว่า 2 เท่า ในขณะที่ธุรกิจ IPTV (3BB GIGA TV) คาดว่าจะมียอดผู้ใช้บริการ จำนวน 2 ล้านรายภายในปี 2566