FSSIA ชูท็อปพิค 3 หุ้นพลังงาน รับผลดีสงครามยูเครน-รัสเซีย

นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (FSSIA) เปิดเผยถึงมุมมองหุ้นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคของไทย หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครน ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อตลาดพลังงานโลก และจะผลักดันให้ราคาน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นจึงมองว่าในบรรดาหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคของไทย ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU และบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เป็นท็อปพิคในกลุ่ม ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมัน ก๊าซฯ และถ่านหินจะมีแนวโน้มขาขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

โดยกำหนดราคาเป้าหมายของ PTTEP อยู่ที่ 162 บาท ส่วน BANPU ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 16.90 บาท และ IVL คงราคาเป้าหมายที่ 70 บาท ขณะที่บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC รับมุมมองกำไรที่แข็งแกร่งจากราคาน้ำมัน และก๊าซที่คาดว่าจะเข้าสู่ขาลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์อาจไม่ดีนักสำหรับ SPP ท่ามกลางราคาน้ำมันและก๊าซฯ ที่สูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2564-ไตรมาส 1/2565 โดยเฉพาะ BGRIM และ GPSC ซึ่งจะทำให้มาร์จิ้นหดตัวจากราคาก๊าซฯ ที่สูงขึ้น

ขณะที่ค่า Ft ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าจากไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป มาร์จิ้นจะเริ่มกลับมาหลังตกสู่จุดต่ำสุดในไตรมาส 1/2565 และจะค่อยๆ ปรับขึ้นในไตรมาส 2/2565 ถึงไตรมาส 4/2565 ผลักดันโดยราคาต้นทุนก๊าซที่ลดลง ดังนั้นจึงกำหนดราคาเป้าหมาย BGRIM อยู่ที่ 46 บาท และให้ราคาเป้าหมาย GPSC อยู่ที่ 90 บาท