สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.พ. 2565

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (28 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายจบลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงใด ๆ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,892.60 จุด ลดลง 166.15 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,373.94 จุด ลดลง 10.71 จุด หรือ -0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,751.40 จุด เพิ่มขึ้น 56.78 จุด หรือ +0.41%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อยในวันจันทร์ (28 ก.พ.) ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงติดตามสถานการณ์ในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 453.11 จุด ลดลง 0.42 จุด หรือ -0.09%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,658.83 จุด ลดลง 93.60 จุด หรือ -1.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,461.02 จุด ลดลง 106.21 จุด หรือ -0.73% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,458.25 จุด ลดลง 31.21 จุด หรือ -0.42%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันจันทร์ (28 ก.พ.) หลังจากชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรุนแรงครั้งใหม่ต่อรัสเซียที่บุกโจมตียูเครน ขณะที่หุ้นบีพีร่วงลง หลังตัดสินใจขายหุ้นในบริษัทรอสเนฟต์ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,458.25 จุด ลดลง 31.21 จุด หรือ -0.42%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 95 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (28 ก.พ.) ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลง ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการที่สหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 4.13 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2557 และตลอดเดือนก.พ. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 8.6%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 3.06 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 100.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557 และตลอดเดือนก.พ. สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 10.7%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (28 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ยูเครน นอกจากนี้ สัญญาทองคำได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 13.1 ดอลลาร์ หรือ 0.69% ปิดที่ 1,900.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดเดือนก.พ. สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นราว 5.8%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 34.9 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 24.366 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 11.4 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 1,038.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 138.90 ดอลลาร์ หรือ 5.9% ปิดที่ 2,504.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (28 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่ชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินบางสกุล ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.09% สู่ระดับ 96.7010

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1226 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1266 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3419 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3410 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7264 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7232 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.88 เยน จากระดับ 115.59 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ  0.9167 ฟรังก์ จากระดับ 0.9263 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2690 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2713 ดอลลาร์แคนาดา