SET เช้าพุ่ง 10 จุด ตามตปท. รับปัจจัยหนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้า-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

SET เช้าพุ่ง 10 จุด ตามตปท. รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามองผลกระทบยูเครนรัสเซียน้อยและน้ำมันดีดตัวขึ้นเกือบ 5% หนุน แนะจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10:07 น. อยู่ที่ 1,695.18 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด หรือ 0.59% สูงสุดที่ 1,698.45 จุด ต่ำสุดที่ 1,694.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.01 หมื่นล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้ามีโอกาสปรับตัวขึ้นโดยได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางเงินทุนต่างชาติไหลเข้า โดยนักลงทุนมองว่าตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนค่อนข้างจำกัด ในขณะเดียวกันได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นเกือบ 5%

อย่างไรก็ตามให้ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงระหว่างวันได้

ทั้งนี้พร้อมให้แนวรับที่ 1,670-1,675 จุด และแนวต้าน 1,690-1,700 จุด

ส่วนบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (1 มี.ค.2565) โดยประเมินว่า SET แกว่งตัว 1,680 – 1,700 จุด ตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียที่ไม่แน่นอนหลังการเจรจาของทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันได้ แต่จะกลับมาเจรจารอบใหม่อีกครั้งที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานรวมถึงแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวยังคงเป็นแรงหนุนต่อดัชนี ทั้งนี้แนะติดตามวันที่ 2-3 มี.ค. ประธานเฟดแถลงการณ์นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินแนวโน้มตลาดวันนี้ (1 มี.ค.2565) คาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,692 จุด และคาดยังมีความผันผวนสูงในระยะนี้ โดยปัจจัยหลักอยู่ที่พัฒนาการของสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนว่าจะผ่อนคลายลงบ้างหรือไม่ โดยวานนี้แม้การเจรจานัดแรกจะยังไร้ข้อสรุป แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง ขณะที่ฝั่งชาติตะวันตกทั้ง EU และสหรัฐฯยังคงมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่เข้มขึ้นเพื่อกดดันให้ถอนทหารออกจากยูเครนทันที ทำให้เศรษฐกิจรัสเซียถูกกระทบอย่างหนักและค่าเงินรูเบิลอ่อนค่ากว่า 30% ระยะสั้นเม็ดเงินยังไหลเข้าไปพักที่พันธบัตร ทองคำและน้ำมันเพื่อประเมินสถานการณ์

ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯและอาเซียนคาดมีผลกระทบน้อยกว่ายุโรปและมองเป็นอีก Save Haven ในระยะนี้หากสถานการณ์ไม่เลวร้ายถึงขั้นเป็นสงครามในวงกว้าง ยังมองหุ้น Value และ Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่ม Commodity ต้นน้ำ ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ จะยังปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด

Back to top button