EGCO เคาะปันผล 3.25 บ. ขึ้น XD 11 มี.ค.นี้ กางแผนปี 65 ต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาด
EGCO กางแผน ปี 65 มุ่งต่อยอดธุรกิจไฟฟ้า ผลิตพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมเร่งขยายลงทุนทั้งธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค รวมถึงธุรกิจ Smart Energy Solution อย่างไรก็ตามเคาะปันผลหุ้นละ 3.25 บ. ขึ้น XD 11 มี.ค. 65 กำหนดจ่าย 27 เม.ย.65
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ย้ำนโยบายรักษาการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นและจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 11 มี.ค. 2565 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 15 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 เมษายน 2565 หลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน 2565 เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ หากรวมการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท จะเป็นการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานสำหรับงวดบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2564 รวมหุ้นละ 6.50 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 ทาง EGCO สามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การด้อยค่าของสินทรัพย์ การวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า) จำนวน 10,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,480 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% เมื่อเทียบกับปี 2563 ในขณะที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 4,104 ล้านบาท ลดลง 4,629 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53% เมื่อเทียบกับปีก่อน
เนื่องจากมีผลกระทบหลักจากการแปลงมูลค่าหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทซึ่งเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท และจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรม (Fair value) ของเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งทั้ง 2 รายการเป็นการรับรู้ ผลกระทบตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น ไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและการดำเนินงาน
ขณะที่ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ความผันผวนทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ต่อเนื่องจากปี 2563 และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน EGCO ยังคงมีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าไซยะบุรี โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา โรงไฟฟ้าเคซอน และจากอัตราค่าไฟฟ้าและไอน้ำต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าสตาร์ เอนเนอร์ยี่ โรงไฟฟ้าซาลักและโรงไฟฟ้าดาราจัท รวมทั้งยังรับรู้กำไรจากโครงการใหม่ในสหรัฐอเมริกา 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน และเอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง
ส่วนในปี 2564 ที่ผ่านมา EGCO มีการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่หลากหลาย โดยเฉพาะการเน้นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการต่อยอดพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจ โดยมีความสำเร็จสำคัญ คือ การขยายการลงทุนในสหรัฐอเมริกา 2 โครงการ ได้แก่ การซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ “ลินเดน โคเจน” และการซื้อหุ้นใน “เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง” ที่เป็นผู้นำการพัฒนา การขาย และการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โครงการพลังงานสะอาดในสหรัฐอเมริกา การลงทุนในกิจการสตาร์ทอัพ “เพียร์ พาวเวอร์” เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชนซื้อขายพลังงาน ตลอดจนการได้รับใบอนุญาตเป็น “ผู้จัดหาและนำเข้าแอลเอ็นจี” เพื่อบริหารต้นทุนเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโกอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม EGCO ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ด้วยการพัฒนา “โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง” เพื่อรองรับการลงทุนของ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในขณะเดียวกันยังได้ต่อยอดพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจ โดยร่วมกับ กฟผ. และราช กรุ๊ป จดทะเบียนจัดตั้ง “อินโนพาวเวอร์” เพื่อยกระดับงานวิจัยนวัตกรรมสู่การต่อยอดเชิงพาณิชย์ และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเทคโนโลยี Solid Oxide Fuel Cell (SOFC) กับ กฟผ. Bloom Energy และ ATE เพื่อพัฒนาการใช้ไฮโดรเจนมาผลิตไฟฟ้า ที่จะช่วยสนับสนุนการลดคาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศไทยและการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ไฮโดรเจน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ให้สำเร็จ
“ในปี 2565 EGCO มุ่งต่อยอดความสำเร็จในธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในขณะเดียวกัน ได้เร่งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค และธุรกิจ Smart Energy Solution นอกจากนี้ EGCO ยังมีพันธกิจในการเป็นพลเมืองที่ดีของชุมชนและสังคมและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน ควบคู่กับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน” นายเทพรัตน์ กล่าว